




บทที่ 2
"เร่อเอ๋อร์ อย่าเหม่อมองสิ ฉันบอกเธอนะ ในเมืองนี่มีพวกลักพาตัวเด็กเยอะ ถ้าเธอไม่อยู่ใกล้ๆ ฉัน แล้วถูกพวกมันจับตัวไป เธอจะหาทางกลับบ้านไม่เจอหรอก" แม่บุญธรรมขู่ฉัน
ฉันกลัวจนรีบวิ่งไปซุกตัวในอ้อมอกของพี่ชุนเอ๋อร์ ทำเอาพี่สาวหัวเราะชอบใจ
"พ่อ พวกเราจะไปที่ไหนกันเหรอ" พี่สาวถาม
"ไปเทียนเฉียว ได้ยินมาว่าสะพานเทียนเฉียวในปักกิ่งคึกคักมาก เป็นที่ที่คนอย่างพวกเราหากินกัน" พ่อบุญธรรมตอบ
ฉันไม่รู้ว่าเทียนเฉียวเป็นอย่างไร ไม่เคยได้ยินมาก่อนเลย
เมื่อรถม้ามาถึงเทียนเฉียว ฉันถึงได้รู้ว่าที่นี่มีผู้คนหลากหลายจริงๆ ทั้งคนแสดงกายกรรม คนขายยาบำรุงกำลัง คนฉายหนังกล่อง คนตัดผม มีคนทำมาหากินสารพัดอย่าง
แน่นอนว่ามีคนแสดงมากมาย ฉันเห็นเด็กผู้หญิงถักเปียยืนร้องเพลงอยู่ริมถนน ร้องอะไรสักอย่างเกี่ยวกับ "สี่ฤดูใบไม้ผลิมา ดอกไม้เต็มเมือง"
ฉันอดขำเธอไม่ได้ หน้าหนาวอย่างนี้ ควรจะร้องเกี่ยวกับหิมะโปรยปรายสิ จะดอกไม้เต็มเมืองอะไรกัน
"เร่อเอ๋อร์ เธอหัวเราะอะไร เห็นอะไรแปลกๆ หรือ" พี่สาวถาม
"ฉันเห็นคนฉายหนังกล่องน่ะ สนุกจัง คนนั้นก้มดูอะไรอยู่ไม่รู้ แล้วอีกคนยืนข้างๆ ร้องเพลงด้วย" ฉันพูดพลางหัวเราะ
"เธอน่าจะดูคนขายยาบำรุงกำลังนั่นสิ ถึงจะสนุก อากาศหนาวขนาดนี้เขายังเปลือยอก ไม่กลัวหนาวตายหรือไง" พี่สาวเองก็หัวเราะกลั้นไว้
"พอเถอะ พวกเธอสองคนหยุดหัวเราะได้แล้ว รีบหาที่กำบังลมพักเหนื่อยกันดีกว่า" แม่บุญธรรมบอก
พี่ชายคนขับรถจอดรถม้าไว้ริมถนน ใต้เพิงหญ้าใหญ่ ที่มีร้านขายซาลาเปาและชาถ้วยใหญ่
ฉันหิวแล้ว จ้องมองพ่อครัวร่างอ้วนเปิดฝาหม้อใบใหญ่ ซาลาเปาร้อนๆ ส่งไอควันฉุย แต่ละลูกอวบอ้วนน่ากิน
"พี่ หนูหิว อยากกินซาลาเปา" ฉันมองพี่สาวพลางพูด
"เด็กคนนี้ คนเยอะแยะขนาดนี้ เธอยังอยากกินซาลาเปาอีกเหรอ ซาลาเปาแป้งขาวพวกนี้ลูกละเท่าไหร่ เธอรู้มั้ย พวกเราจะกินไหวเหรอ ฉันมีขนมแป้งข้าวโพดในถุงนี่ ทุกคนคนละถ้วยชาใหญ่ ก็อุ่นดีแล้ว" แม่บุญธรรมบอก
ฉันไม่กล้าพูดอะไรอีก ได้แต่มองซาลาเปาที่มีไอร้อนลอยฟุ้งพลางกลืนน้ำลาย
แม่บุญธรรมและคนอื่นๆ ลงจากรถม้า เข้าไปนั่งในเพิงหญ้า
"น้อง ชาใหญ่หกถ้วย" พ่อบุญธรรมสั่ง
"มาแล้วครับ!" ลูกมือร้านตะโกนอย่างกระตือรือร้น ยกถ้วยชาเซรามิกหยาบๆ มาหกใบ พร้อมกาน้ำชาปากทองเหลืองใบใหญ่ รินชาเต็มทั้งหกถ้วย ฉันมองชา ไม่มีใบชาแช่อยู่ แต่สีชากลับเข้มมาก
"เร่อเอ๋อร์ ดื่มเร็ว กินของว่างหน่อย" แม่บุญธรรมพูดพลางยื่นขนมแป้งข้าวโพดให้ฉันชิ้นหนึ่ง
ทั้งหิวทั้งกระหาย ฉันรีบดื่มชาไปหลายอึก น้ำชาอุ่นไหลลงท้อง รู้สึกอบอุ่นขึ้นไม่น้อย แต่ชาเข้มๆ ชะล้างลำไส้ ทำให้ฉันยิ่งหิว ขนมแป้งข้าวโพดแน่นอนว่าไม่อร่อยเท่าซาลาเปาร้อนๆ แต่ฉันหิวมาก ไม่สนใจอะไรทั้งนั้น กัดขนมเป็นคำใหญ่ๆ
"ดูเธอสิ รีบร้อนจัง กินช้าๆ หน่อย" พี่สาวร้องเตือนฉันอย่างร้อนใจ
ฉันกลืนขนมแข็งๆ คำใหญ่ไม่ลง ติดคอจนไอไม่หยุด
"รีบดื่มน้ำเร็ว" พี่สาวพูดพลางส่งถ้วยชาให้ฉัน
ฉันรีบดื่มอึกใหญ่ จนในที่สุดก็กลืนลงไปได้
"ชุนเอ๋อร์ ทำไมไม่ดื่มล่ะ รีบดื่มหน่อย จะได้คลายความหนาว" แม่บุญธรรมพูดพลางลูบผมพี่สาวอย่างเอ็นดู
พี่สาวดื่มชาไปอึกหนึ่ง มองขนมแป้งข้าวโพดแข็งๆ ไม่พูดอะไร แล้วจู่ๆ ก็ลุกขึ้น
พี่สาวเดินไปที่หม้อซาลาเปา มองดู
"ซาลาเปาลูกละเท่าไหร่"
"หนึ่งต้าจื้อต่อสองลูก" ลูกมือตอบ
พี่สาวได้ยินแล้วปลดกระดุมล่างสุดของเสื้อนวม ล้วงมือเข้าไปในเสื้อชั้นในคลำอยู่พักหนึ่ง หยิบเหรียญทองแดงต้าจื้อออกมาหนึ่งเหรียญ