Read with BonusRead with Bonus

บทที่ 7

"แฟนเธอซื้อช็อกโกแลตมาให้"

พูดจบฉันก็เดินออกจากห้องเขา ฉันกลั้นน้ำตาไว้เพราะตัดสินใจแล้วว่าจะไม่ร้องไห้เพราะเขาอีก ฉันจะไม่ร้องไห้ให้เขา ทำไมฉันต้องร้องไห้ในเมื่อเขาจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าเรื่องมันเป็นมายังไง มันยากนะ แต่ฉันตัดสินใจแล้วว่าจะลืมวันนั้นไปซะ ถือว่า เป็นความผิดพลาดแบบเด็กๆ ของฉันเอง ฝังมันไว้ให้ลึกสุดใจและจะไม่ขุดมันออกมาอีก ถ้าฉันยังยึดติดอยู่อีก สุดท้ายฉันเองที่จะเจ็บ เขาไม่เคยสนใจฉันเลย มีแต่ฉันที่โง่เองที่ฝันเฟื่องไปเรื่อยเปื่อยโดยไม่มีมูลความจริง ฉันเดินกลับไปที่ห้องเควินก็เจอเขานอนแผ่หราอยู่บนเตียงเหมือนตัวสลอธขี้เกียจ

"หน้าไปโดนอะไรมา" เขาถามตอนที่ฉันเดินไปที่เตียง

"เปล่าหน่อย ขยับไปสิ" ฉันบอก อยากจะทิ้งตัวลงนอนข้างๆ เขา เขาขยับอย่างเกียจคร้าน ผ้าปูที่นอนยับยู่ยี่ตอนที่เขาเขยิบไปเปิดที่ให้ฉัน การกระทำของเขาทำให้ฉันหน้าบึ้งแต่ก็ไม่ได้ว่าอะไรแล้วล้มตัวลงนอนข้างๆ ถ้าอยู่ที่หอพักแล้วทำแบบนี้นะ หัวหน้าซิสเตอร์คงสั่งให้เขาปูเตียงให้ทุกคนเป็นการลงโทษแล้ว

จู่ๆ ฉันก็รู้สึกอ่อนเพลียเหมือนตอนเป็นไข้ แม้จะพยายามลบภาพที่อลิชาเดินออกมาจากห้องน้ำของเขาออกจากหัวยังไงก็ทำไม่ได้ ฉันพยายามอย่างหนักที่จะไม่คิดถึงมันอีก แต่ใจฉันก็ยังคงบีบรัดอยู่กับเส้นใยบางๆ ของความรู้สึกที่ไม่ต้องการซึ่งฉันเรียกว่าความรัก ฉันหลับตาพยายามขจัดทุกอย่างออกไป และระหว่างที่ทำอยู่นั้น ฉันก็ไม่รู้ตัวว่าเผลอหลับไปตอนไหน ฉันตื่นขึ้นเพราะตัวถูกเขย่าอย่างแรงจนต้องลืมตา

"ตื่นได้แล้ว ยัยขี้เซา ลงไปข้างล่างกัน" เควินพูดพลางมองฉันแล้วยิ้มเยาะ

"กี่โมงแล้ว" ฉันถามพร้อมกับหาวหวอดใหญ่

"เธอหลับไปสองชั่วโมงแล้ว เกือบจะถึงเวลากลางวันแล้วนะ แม่เรียกให้ลงไปข้างล่างตั้งหลายครั้งแล้ว" เขาพูดแล้วเริ่มเดินไปที่ประตู ส่วนฉันก็ลุกขึ้นนั่งบนเตียง ตาฉันยังหนักอึ้งจากความง่วง ฉันไปห้องน้ำล้างหน้าแล้วก็เดินลงไปทานอาหารกลางวัน ทุกคนนั่งอยู่ที่โต๊ะกันพร้อมหน้าแล้ว ขณะที่ฉันกำลังเดินลงบันได สายตาของเขาก็จับจ้องมาที่ฉัน ฉันเดินลงไปด้วยใบหน้าบึ้งตึง อลิชานั่งอยู่ข้างๆ เขา ชิดเสียจนเกินไป เธอก็มีสิทธิ์นี่นา เพราะยังไงเธอก็เป็นแฟนของเขา เสียงในใจฉันบอก ทำให้หน้าฉันยิ่งบึ้งตึงมากขึ้นกับคำว่าแฟน สายตาของเขาจับจ้องฉันจนกระทั่งฉันไปถึงที่นั่ง

"ป้ารอหนูอยู่เลยจ้ะ" คุณป้าพูดพร้อมรอยยิ้มเมื่อเห็นฉัน

"วันนี้ย่าทำพายของโปรดของหนูด้วยนะ" คุณย่าพูด ทำให้ตาฉันลุกวาวด้วยความดีใจ

"พายฝีมือคุณย่า ขอบคุณค่ะคุณย่า" ฉันพูดอย่างมีความสุขแล้วลุกจากที่นั่งไปกอดท่าน ฉันโอบแขนรอบตัวท่านขณะที่ท่านตบเบาๆ ที่แขนฉันซึ่งโอบรอบตัวท่านอยู่ คุณย่าไม่ค่อยเข้าครัวแล้วเพราะอายุมาก แต่วันนี้ท่านอุตส่าห์ไปทำพายให้ฉัน

"หนูรักคุณย่านะคะ" ฉันพูดพร้อมกับกอดท่านแน่น

"ย่าก็รักหนูจ้ะหลานรัก" คุณย่าพูดอย่างเอ็นดู

"คุณย่ารักแต่ลูน่าคนเดียว ทำไมไม่เคยทำพายให้เควินบ้างเลยครับ" เควินทำท่าเหมือนเด็กๆ มองฉันเหมือนเด็กห้าขวบที่กำลังโกรธ ฉันแลบลิ้นใส่เขา ทำให้คนที่เหลือหัวเราะออกมา ฉันคลายอ้อมกอดจากคุณย่าแล้วกลับไปนั่งที่เดิม

"ใช่สิครับคุณย่า มันไม่ยุติธรรมเลย คุณย่าไม่เคยอบพายให้ผมเลยสักครั้ง ทำไมล่ะครับ" เขาถามคุณย่าพร้อมรอยยิ้มเยาะบนใบหน้าขณะที่ยังคงมองมาที่ฉัน

"ก็แหม ลูน่าเป็นคนพิเศษของย่านี่นา ย่ามีหลานชายตั้งสองคน แต่มีหลานสาวแค่คนเดียวนะ" คุณย่าอธิบาย ทำให้ฉันยิ้มเยาะใส่เควินมากขึ้นไปอีก ส่วนเขาก็ทำเสียงฮึดฮัดอย่างหงุดหงิด เขาเป็นพวกขี้อิจฉามาแต่ไหนแต่ไรแล้ว อลิชาเอาแต่จ้องมองฉันตลอดเวลาด้วยแววตาบางอย่าง แต่ฉันก็ทำเป็นไม่สนใจ

"แล้วนี่ลูน่า วันเกิดจะทำอะไรบ้างล่ะจ๊ะ อีกแค่สองวันเองไม่ใช่เหรอ" คุณป้าถามฉันขณะที่ฉันกำลังจะตักอาหารเข้าปาก คำพูดของท่านทำให้ฉันนึกถึงความทรงจำแย่ๆ ที่พยายามจะฝังกลบมันเอาไว้ ฉันวางแผนไว้ตั้งหลายอย่าง แต่ตอนนี้ไม่มีอะไรสำคัญอีกแล้ว เพราะทุกอย่างมันไร้ความหมายไปหมดแล้ว ฉันรู้สึกได้ถึงดวงตาสีอำพันของเขาที่จับจ้องมา ทำให้ฉันกำช้อนแน่นขึ้น ฉันเงยหน้าขึ้นมองท่าน

"ไม่มีอะไรมากค่ะ หนูแค่อยากฉลองกับพวกคุณป้าเฉยๆ" ฉันพูดพร้อมกับรอยยิ้มเล็กๆ บนใบหน้า

"แล้วมีธีมในใจหรือยังล่ะ" คุณป้าถามเหมือนอยากจะช่วยวางแผนให้ฉัน

"หนูไม่มีอะไรในใจเลยค่ะ คุณป้าจัดการได้ตามใจเลย" ฉันพูดเสียงเบา คุณป้ามองไปทางคุณย่าเพื่อขอความช่วยเหลือเมื่อเห็นฉันปฏิเสธที่จะคุยเรื่องวันเกิดของตัวเอง ถ้ามีใครถามฉันเมื่อเดือนที่แล้วว่าอยากฉลองวันเกิดอายุสิบแปดปีอย่างไร ฉันคงจะพูดได้เป็นชั่วโมงๆ ทำให้พวกเขาต้องจดรายการความต้องการมากมายว่าวันเกิดของฉันควรจะวางแผนอย่างไร แต่ตอนนี้ในหัวของฉันมันว่างเปล่าไปหมด

"ลูน่า ทำไมหนูไม่ไปนั่งคุยกับคุณป้าเขาดูล่ะลูก ว่าอยากจะฉลองวันเกิดยังไง วันเกิดสิบแปดปีมันมีแค่ครั้งเดียวในชีวิตนะ" คุณย่าเอ่ยคำพูดที่แฝงด้วยปัญญา ทำให้ฉันพยักหน้าเห็นด้วย นั่นทำให้คุณป้ายิ้มออกมา ฉันคิดตามคำพูดของท่าน ตอนแรกฉันไม่อยากจะฉลองเลยด้วยซ้ำ แต่วันเกิดมันก็มีปีละครั้ง ฉันจะปล่อยให้อารมณ์ของตัวเองมาทำลายความสุขไม่ได้

"กินข้าวเสร็จไปเตะบอลกัน" เควินพูดขึ้นตอนที่เราใกล้จะกินอาหารเสร็จ

"อืม เอาดิ" ฉันตอบ ก็ฉันพร้อมเล่นเสมออยู่แล้วนี่ ขนาดตอนนอนฉันยังเล่นได้เลย มันเหมือนเป็นความหลงใหลที่ฉันมีมาตั้งแต่เด็ก

"ฉันขอเล่นด้วยได้ไหม" เจสันถามพลางมองมาที่ฉัน

"ฉันก็จะเล่นด้วย" เขาพูดขณะที่ดวงตาสีอำพันของเขายังคงจับจ้องมาที่ฉัน

"ทำไมจะไม่ล่ะ ยิ่งเยอะยิ่งสนุก" ฉันพูดพร้อมกับฝืนยิ้มขณะมองไปที่เจสัน

"ฉันจะเชียร์พวกนายเอง" อลิช่าพูดด้วยน้ำเสียงตื่นเต้นราวกับว่าพวกเรากำลังจะลงแข่งทัวร์นาเมนต์ ฉันไม่มีชุดให้เปลี่ยน เลยยืมกางเกงสแปนเด็กซ์สำหรับเตะบอลของเควินมาใส่ และโชคดีที่ฉันใส่สปอร์ตบราไว้ข้างใน เลยตัดสินใจใส่แค่นั้นเล่น ฉันเดินไปที่สนามหญ้ากว้างๆ ที่มีประตูฟุตบอลตั้งอยู่ ขณะที่ฉันเดินเข้าไป ดวงตาของเขาก็เบิกกว้างเมื่อเห็นฉัน และขากรรไกรของเขาก็บดเข้าหากัน ดวงตาสีอำพันของเขามองมาที่ฉันอย่างกับจะแผดเผา แต่ฉันทำเป็นไม่สนใจ

"ลูน่า เธอไปมีหน้าอกตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย" เควินถามพร้อมรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ ทำให้ฉันต้องกลอกตามองบนใส่เขา ปกติฉันจะใส่เสื้อผ้าตัวใหญ่กว่าไซส์ตัวเองตลอด ส่วนเว้าส่วนโค้งมันเลยซ่อนอยู่ข้างใน

"ก็ตอนที่นายพยายามจะโตนั่นแหละ" ฉันแขวะไป แต่เจ้าคนหน้าไหมดันหัวเราะออกมา ทำให้ฉันอดหัวเราะตามไปด้วยไม่ได้ เขาไม่เลิกทำตัวเป็นเด็กเสียที สรุปก็คือฉันกับเจสันอยู่ทีมเดียวกัน ส่วนสองพี่น้องนั่นอยู่อีกทีม ฉันกับเจสันกำลังคุยเรื่องแผนกันอยู่ เราคุยกันขณะที่สองพี่น้องนั่นก็ทำเหมือนกัน ฉันยังคงรู้สึกได้ถึงสายตาของเขาที่มองมา

"งั้นเป้าหมายหลักของเราคือต้องไม่ให้บอลกับพวกนั้น" เจสันพูดด้วยน้ำเสียงจริงจังพร้อมกับวางมือลงบนไหล่ของฉัน ฉันพยักหน้าและกำลังจะพูดอะไรบางอย่าง ทันใดนั้นมือของฉันก็ถูกคว้าไว้แน่นแล้วฉันก็ถูกลากออกไปจากเจสัน เขามองตามพวกเราด้วยสายตางุนงงจนกระทั่งเราลับสายตาไป เขาลากฉันไปที่กำแพงบ้านฝั่งของพวกเขา ฉันถลึงตาใส่เขาด้วยความโมโหกับการกระทำปุบปับของเขา พร้อมกับสะบัดมือออกจากการเกาะกุมที่แน่นหนา

"ใส่ซะ" เขาพูดพร้อมกับถอดเสื้อยืดของตัวเองออกแล้วยื่นมาตรงหน้าฉัน เผยให้เห็นกล้ามท้องที่ได้รูป ฉันกลืนน้ำลายอึกใหญ่แล้วเบือนหน้าหนี ปฏิเสธข้อเสนอของเขา

"ลูน่า ใส่ซะ ในขณะที่ฉันยังพูดดีๆ ด้วยอยู่" เขาพูดด้วยสีหน้าเคร่งขรึม ทำให้ฉันต้องกลืนน้ำลายอีกครั้ง เขาไม่เคยใช้โทนเสียงแบบนี้กับฉันมาก่อน

"โอเค งั้นถ้าอยากจะดื้อนักก็เอาเลย" เขาพูดด้วยน้ำเสียงเดิม ทำให้ฉันต้องขมวดคิ้วมองเขา รู้ตัวอีกทีเขาก็จับฉันใส่เสื้อยืดของเขาด้วยมือของตัวเองแล้ว ฉันจ้องเขาเขม็งขณะที่เขาบังคับใส่เสื้อให้ฉันทั้งๆ ที่ฉันขัดขืน แฟนของเขาก็ใส่แค่สปอร์ตบรากับกางเกงขาสั้นเหมือนกัน แถมเธอก็ไม่ได้ลงเล่นด้วยซ้ำ แล้วทำไมเขาถึงพยายามจะให้ฉันแต่งตัวมิดชิดกว่าแฟนตัวเองด้วยล่ะ รอยยิ้มเยาะปรากฏบนใบหน้าของเขาราวกับพอใจในสิ่งที่ทำ เขายกมือขึ้น ประคองใบหน้าของฉันด้วยมือใหญ่ของเขา แล้วข่มขู่ ทำให้เกิดความรู้สึกซาบซ่านไปทั่วทั้งตัว

"จากนี้ไป ฉันจะดื้อให้มากกว่าเธอเป็นสิบเท่าคอยดู"

Previous ChapterNext Chapter