




บทที่ 4
สองเดือนต่อมา...
“ซีโน่! ซีโน่! มาเร็วเข้า! เดี๋ยวก็อดดูหรอก มันน่าสนใจมากเลยนะ!” เคนตะโกนเรียกซีโน่ที่กำลังล้างจานอยู่ในครัว
“เดี๋ยวไปนะเพื่อน” ซีโน่ตอบกลับจากในครัว
พอเขาทำเสร็จและเดินไปที่ห้องนั่งเล่น เคนก็หลับปุ๋ยไปเสียแล้ว โดยมีทีวีกำลังฉายการ์ตูนเรื่อง อวตาร: ดิ ลาสต์ แอร์เบนเดอร์ ตอนสุดท้ายอยู่
เขาปิดโทรทัศน์แล้วอุ้มเด็กชายไปที่ห้องนอนของเจ้าตัว ก่อนจะจัดผ้าห่มให้เรียบร้อย
สองเดือนที่ผ่านมานี้ช่างสนุกสนานเมื่อได้อยู่กับเคน
เขาทำให้เด็กชายยอมออกจากกำแพงของตัวเองและเปิดใจกับเขาได้สำเร็จ เขาเล่นและพูดคุยกับเคนเกือบทุกวันที่ว่าง แต่เคนไม่เคยเอ่ยถึงเรื่องพ่อแม่ของตัวเองเลย มันไม่ใช่ความรู้สึกเหมือนว่าเด็กชายกำลังหลีกเลี่ยงหัวข้อนี้ แต่ดูเหมือนว่าเขาไม่มีอะไรจะพูดถึงพวกเขาจริงๆ ซึ่งซีโน่พบว่าเป็นเรื่องที่น่าเศร้าอยู่เหมือนกัน
เขายังทำความคุ้นเคยกับพวกเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยบางคนด้วย พวกนั้นไม่ได้เป็นมิตรจนเกินไป แต่อย่างน้อยพวกเขาก็เลิกเอาปืนจ่อหน้าเขาทุกครั้งที่เห็นหน้ากันแล้ว ซึ่งนั่นก็นับเป็นสัญญาณที่ดี
เขาลองนึกภาพว่าชีวิตของเคนก่อนที่เขาจะมาจะน่าเบื่อขนาดไหน การเป็นลูกคนเดียวในโลกที่คล้ายกับวงการมาเฟีย
เขาทิ้งตัวลงบนโซฟาแล้วหยิบโทรศัพท์ออกจากกระเป๋าเพื่อส่งข้อความหาแอนนา
ซีโน่: หวัดดีแอนนา ขอโทษทีที่พลาดสองไฟต์ล่าสุด งานนี้มันแปลกๆ หน่อย พวกเขาไม่ยอมให้ฉันออกไปไหนจนกว่าเจ้านายจะกลับมาจากการเดินทาง ซึ่งก็...อีกเป็นเดือนเลย ช่วยคุยกับริคโก้ให้หน่อยนะ เขาฟังเธอมากกว่า
ทันทีที่เขาส่งไป การแจ้งเตือนก็เด้งขึ้นมาทันที
แอนนา: ไม่มีปัญหา เพื่อนายแล้วทำได้ทุกอย่าง
เขายิ้มเมื่อได้อ่านคำตอบของเธอ เขาว่างโทรศัพท์ไว้บนโต๊ะกลางแล้วเอนกายพักผ่อนบนโซฟาตัวใหญ่ ตัดสินใจว่าจะงีบหลับตรงนี้สักพักก่อนจะกลับเข้าห้องตัวเอง ไม่นานนัก นิทราก็เข้าครอบงำ
เสียงฝีเท้าใกล้เข้ามาดังขึ้นจากทางเข้า แต่ซีโน่หลับลึกเกินกว่าจะได้ยิน
เสียงฝีเท้ายิ่งดังใกล้เข้ามา ใกล้เข้ามาเรื่อยๆ จนกระทั่งเขาได้ยินเสียงของซิริแว่วๆ กำลังต้อนรับใครบางคนเข้ามาในบ้าน แต่ก่อนที่เขาจะได้ลืมตาขึ้นมาดูว่าเป็นใคร เขาก็รู้สึกได้ถึงมือขนาดใหญ่ที่กำลังบีบคอของเขา ขาทั้งสองข้างถูกล็อกไว้แน่นระหว่างขาที่ใหญ่กว่ามาก และเขาก็รู้สึกถึงโลหะเย็นเยียบของกระบอกปืนที่จ่ออยู่ตรง...น้องชายของเขาพอดี
ซีโน่รีบเบิกตาโพลงตามสัญชาตญาณ พร้อมที่จะต่อสู้กับผู้บุกรุก แต่ทันทีที่ทำเช่นนั้น เขาก็สบเข้ากับนัยน์ตาสีเทาเข้มอันน่าหลงใหลที่กำลังจ้องมองมาอย่างเป็นอันตราย
ใบหน้าของผู้ที่จู่โจมอยู่ใกล้เกินไป เขาไม่สามารถมองเห็นหน้าตาได้ชัดเจนนัก แต่รู้ว่ามันคมคาย แม้จะมองในระยะประชิดก็ตาม
เขาไม่คิดจะต่อสู้ เขาไม่อยากเสียน้องชายคนเล็กตรงนั้นไป และคุณย่าของเขาก็ยังคาดหวังจะได้อุ้มหลานจากเขาอยู่ เขาทำให้ท่านผิดหวังไม่ได้
“แก-เป็น-ใคร” น้ำเสียงของผู้จู่โจมนั้นทุ้มต่ำ ดุดัน และเปี่ยมไปด้วยอำนาจสั่งการ
ซีโน่เป็นนักสู้ แต่เขากลับรู้สึกเย็นสันหลังวาบไปกับเสียงนั้น
มือที่บีบคอของซีโน่รัดแน่นขึ้น แต่เขาก็ทนได้ เขาเป็นนักสู้
เมื่อพิจารณาจากรูปลักษณ์และท่าทีที่มั่นใจของผู้จู่โจมแล้ว นี่ต้องเป็นเจ้านายของเขาแน่ๆ และเขาก็เพิ่งจะหาเรื่องเดือดร้อนใส่ตัวกับชายที่ดูอันตรายคนนี้ ด้วยการนอนอย่างสบายอารมณ์บนโซฟาหนังราคาแพงของเจ้าตัว
เขานึกถึงคำพูดของพ่อบ้านนิโคลที่บอกให้เขาทำตัวตามสบาย ตอนนี้ดูสิว่ามันพาเขามาเจอกับอะไร เขากำลังจะสูญเสียอวัยวะส่วนที่หวงแหนที่สุดไปแล้ว
เขาคิดอย่างรอบคอบว่าจะตอบชายที่ดูเกรี้ยวกราดตรงหน้าอย่างไร เขาไม่อยากมีเรื่องกับอีกฝ่าย
“พี่เลี้ยงของคุณครับ” ซีโน่เค้นตอบออกมาทั้งที่ช่องทางเดินหายใจกำลังถูกบีบ
‘ไอ้หมอนี่มันปีศาจชัดๆ!’ ซีโน่คิดในใจ
เขาเกลียดขี้หน้ามันตั้งแต่ตอนนี้เลย
“มึงเป็นใครวะ!”
ผลัวะ!
หมัดหนักๆ ซัดเข้าที่ใบหน้าของซีโน่ บริเวณใกล้ดวงตา
เซบาสเตียนตั้งใจจะกลับบ้านเร็วหน่อยเพื่อที่จะได้ไล่พี่เลี้ยงที่พวกเขาหามาให้ลูกชายออกไป
แต่เขาไม่ได้คาดคิดว่าจะมาเจอแฟนหนุ่มของพี่เลี้ยงนอนแผ่หลาอย่างสบายใจบนโซฟาของเขาราวกับเป็นบ้านของตัวเอง
และสัญชาตญาณของเขาก็บอกว่ามีบางอย่างไม่ชอบมาพากลเกี่ยวกับผู้ชายบนโซฟาคนนี้ เขาอาจจะเป็นสายลับจากศัตรูของเขาก็ได้
เขาหมดความอดทนกับผู้บุกรุกแล้ว
“ตอบกูมา!” เซบาสเตียนต่อยเข้าไปที่ริมฝีปากของซีโน่จนมันช้ำ
นับว่ามันโชคดีแล้วที่เขาไม่บีบไข่ของมันให้แตกตั้งแต่ตอนที่เดินเข้ามา แต่ดูเหมือนว่าไอ้เวรนี่ยังพยายามจะเล่นเกมกับเขา คิดว่าความเมตตาของเขาคือความโง่เขลาหรือไง
“โธ่เว้ย! ผมเป็นพี่เลี้ยงของคุณ!” ซีโน่พูดอย่างฉุนเฉียวพลางเลียเลือดออกจากริมฝีปาก
ถ้าไม่ใช่เพราะว่าชายคนที่กำลังใช้เขาเป็นกระสอบทรายจะจ่ายเงินก้อนโตให้ล่ะก็ เขาคงจะสู้กลับไปแล้ว แต่เขาก็ไม่ได้ทำ และก็ไม่ใช่เพราะเรื่องเงินเสียทีเดียว แต่เป็นเพราะอีกฝ่ายมีปืนจ่อไอ้หนูซีโน่ของเขาอยู่ด้วย
“แด๊ดดี้! ปล่อยซีโน่นะครับ!” เคนรีบวิ่งลงบันไดมาแล้วผลักพ่อของเขาให้ออกห่างจากซีโน่
“เขาเป็นใคร เคน” เซบาสเตียนถามพลางดึงลูกชายไปหลบอยู่หลังขาของตนเพื่อซ่อนจากสายตาของซีโน่
ซีโน่ใช้มือกุมใบหน้าที่ฟกช้ำของตัวเองขณะลุกขึ้นจากโซฟา
นี่ไม่ใช่สิ่งที่เขาคาดคิดว่าจะเกิดขึ้นในคืนนี้เลย เขาคิดว่าบอสจะยังไม่กลับมาจนกว่าจะถึงอีกหนึ่งเดือนไม่ใช่หรือ
“เขาเป็นแมนนี่ของหนูและเป็นเพื่อนรักของหนูครับ” เคนวิ่งออกมาจากหลังขาของพ่อแล้วไปยืนข้างซีโน่ พลางใช้มือจับเขาไว้
“สวัสดีตอนค่ำครับท่าน ผมชื่อซีโน่ อีแวนเดอร์ เป็นแมนนี่ของลูกชายท่านครับ” ซีโน่ยืนตัวตรงแล้วแนะนำตัวเองอย่างเป็นทางการ
“ใครจ้างแกมา” เซบาสเตียนถามด้วยน้ำเสียงเย็นชา พลางขมวดคิ้วใส่ซีโน่
เขาไม่ชอบหน้าหมอนี่
เขามองภาพที่ลูกชายของตนจับมือชายแปลกหน้าคนนี้ไว้อย่างปกป้อง ราวกับว่าทั้งสองมีความผูกพันที่ลึกซึ้งเกินกว่าที่เขาจะเข้าใจได้
“พ่อบ้านนิโคลครับท่าน” ซีโน่ตอบด้วยความรู้สึกเจ็บใจและอับอาย
“สิริ โทรหาพ่อบ้านนิโคล” เซบาสเตียนสั่ง
“เรียบร้อยค่ะ ท่าน” สิริตอบ
ในเวลาไม่นาน ก็เห็นพ่อบ้านนิโคลเดินก้มหน้าเข้ามาหาพวกเขา เขาประหลาดใจที่พบบอสอยู่ในห้องนั่งเล่น ทุกคนต่างคิดว่าเขายังมีเวลาต้องอยู่ที่นั่นอีกหนึ่งเดือน
“ยินดีต้อนรับกลับครับ บอส” พ่อบ้านนิโคลเอ่ยทักทายโดยที่ยังก้มศีรษะอยู่เมื่อมาถึงห้องนั่งเล่น
“จ่ายเงินเดือนให้เขาเต็มจำนวน แล้วให้เขาออกไปจากที่นี่” เซบาสเตียนกล่าว พลางเก็บปืนกลับเข้าซอง
“ครับ บอส” พ่อบ้านนิโคลตอบ
“ไม่นะ! แด๊ดดี้ทำแบบนั้นไม่ได้นะครับ!” เคนกอดขาของซีโน่ไว้แน่นราวกับว่าการกระทำของเขาจะช่วยยับยั้งการตัดสินใจของพ่อได้
“ไม่เป็นไรนะเจ้าหนู เดี๋ยวฉันจะมาเยี่ยมบ้าง” ซีโน่ตบศีรษะเด็กชายเบาๆ อย่างปลอบโยน
“นี่มันเลยเวลานอนของลูกแล้วนะ เคนเนธ ขึ้นห้องไปได้แล้ว” เซบาสเตียนพูดกับลูกชายเสียงเย็นชาก่อนจะดึงตัวเขาออกจากขาของซีโน่แล้วพาขึ้นไปชั้นบนด้วยกัน
“หายตัวไปซะก่อนที่ฉันจะลงมา” เซบาสเตียนหยุดเดินแล้วพูดกับซีโน่โดยไม่หันกลับมามอง
เขาอุ้มเคนที่กำลังดิ้นรนขึ้นไปยังห้องนอน โดยไม่สนใจเสียงคัดค้านของลูกชายเลย
เซบาสเตียนไม่ต้องการคนแปลกหน้าในบ้านของเขา คนที่เขาเคยไว้ใจสุดหัวใจมาก่อนได้หักหลังเขาอย่างเลือดเย็น มันทำให้เขากลายเป็นคนใจแข็งและหวาดระแวงเรื่องความปลอดภัยกับทุกคน
ก่อนที่ใครจะเข้ามาทำงานให้เขา เขาต้องแน่ใจว่าได้ตรวจสอบประวัติของพวกเขาและครอบครัวอย่างละเอียดถี่ถ้วน พวกเขายังต้องเซ็นสัญญาข้อตกลงว่าหากเขาพบว่าใครก็ตามหักหลังเขา หรือเข้าไปพัวพันกับเรื่องไม่ชอบมาพากล หรือแม้กระทั่งคิดร้ายต่อเขาหรือลูกชาย เขาจะฆ่าพวกนั้นทิ้งทันทีโดยไม่มีการซักถามใดๆ ทั้งสิ้น
แต่ดูสิ่งที่เกิดขึ้นสิ เพียงแค่เขาไม่อยู่แค่สองเดือน พวกเขาก็พาภัยคุกคามที่อาจเกิดขึ้นได้เข้ามาในบ้าน ปล่อยให้ลูกชายของเขาอยู่ภายใต้การดูแลของคนที่ไม่ผ่านการตรวจสอบประวัติ
“แด๊ดดี้ครับ ได้โปรดอย่าให้ซีโน่ไปเลยนะครับ” เคนอ้อนวอนขณะที่พ่ออุ้มเขาเข้ามาในห้อง
“เขาเป็นภัยคุกคามนะเคน เราไว้ใจเขาไม่ได้ ลูกทำให้พ่อผิดหวัง” เซบาสเตียนพูดกับลูกชายพลางวางเขาลงบนเตียง
“หนูขอโทษครับแด๊ด แต่ว่า-”
“พ่อสอนลูกมาดีกว่านี้นี่เคน อย่าไว้ใจคนแปลกหน้า แต่ลูกก็ทำ ถ้าเกิดเรื่องร้ายๆ กับลูกขึ้นมาจะทำยังไง!” เซบาสเตียนถาม พยายามอย่างที่สุดที่จะควบคุมความโกรธ แต่ลูกชายของเขาก็ยังสัมผัสได้ถึงโทสะที่ถูกเก็บกดไว้
“หนูขอโทษครับแด๊ด” เคนพูดพลางมุดตัวลงไปใต้ผ้าห่มลึกกว่าเดิม
เขารู้ดีว่าไม่มีทางเปลี่ยนใจพ่อของเขาได้เมื่อท่านตัดสินใจอะไรไปแล้ว
“พ่อซื้อของขวัญมาให้ พรุ่งนี้จะเอามาให้นะ ฝันดีนะลูกชาย” เซบาสเตียนลูบผมลูกชายเบาๆ ก่อนจะออกจากห้องไป
“คุณซีโน่ครับ เงินจำนวนหนึ่งพันดอลลาร์ถูกโอนเข้าบัญชีของคุณแล้ว ตรวจสอบอีเมลเพื่อยืนยันได้เลยครับ” พ่อบ้านนิโคลบอกกับซีโน่
ทันใดนั้นซีโน่ก็ได้รับการแจ้งเตือน ซึ่งยืนยันสิ่งที่พ่อบ้านนิโคลพูด
“ยืนยันแล้วครับ” ซีโน่ตอบ
เขาควรจะมีความสุขร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่ความสุขของเขากลับไม่เต็มร้อยนักเพราะวิธีการที่เขาต้องจากไป
เขาผูกพันกับเคนไปแล้ว และรู้สึกสงสารเด็กชายที่มีพ่อที่ทั้งดื้อรั้นและไร้หัวใจ เขาอดสงสัยไม่ได้ว่าทำไมพ่อของเด็กชายถึงได้ปฏิบัติต่อเขาอย่างเลวร้ายเช่นนี้
เขาขึ้นไปชั้นบนเพื่อเอาเสื้อผ้าชุดเดิมที่ใส่มา แต่พ่อบ้านนิโคลบอกให้เขานำของทุกอย่างที่ได้รับไปได้เลย เขาก็ทำตามนั้น
เซบาสเตียนยืนอยู่ข้างหน้าต่าง มองอดีตแมนนี่ของลูกชายขับมอเตอร์ไซค์จากไป
เขาอดสงสัยไม่ได้ว่าทำไมพวกเขาถึงต้องหาผู้ชายอันตรายมาดูแลลูกชายของเขา แทนที่จะเป็นผู้หญิงที่ดูเรียบร้อยเชื่องๆ
เขาไม่อยากเห็นหน้าซีโน่อีกเลย สัญชาตญาณของเขาบอกว่ากำลังจะมีเรื่องบางอย่างเกิดขึ้นกับเขา