Read with BonusRead with Bonus

6

สามทุ่มแล้ว แต่เธอก็ยังไม่กลับบ้าน

เมื่อตอนกลางวัน เอ็มม่าส่งข้อความมาบอกฉันว่าจะกลับดึก เธอไม่ได้บอกอะไรมาก แค่ส่งมาเตือนสั้นๆ ฉันจะได้ไม่โผล่ไปที่บ้านเธอตอนหนึ่งทุ่มเหมือนที่ทำเป็นประจำ

ไม่ต้องรอนะ คืนนี้อยู่ข้างนอก

แค่นั้นเลย

และแน่นอน ฉันตอบกลับไป ถึงบ้านแล้วทักมาด้วย

แต่เธอก็ไม่ได้ทักมา

ไม่มีข้อความใดๆ จากเธออีกเลยนับตั้งแต่นั้น

ฉันรู้ว่าเธอไม่ได้ติดค้างคำอธิบายอะไรให้ฉัน เธอไม่ใช่ของฉัน

มันไม่ใช่หน้าที่ของเธอที่จะต้องมารายงานว่าอยู่ที่ไหนหรืออยู่กับใคร

ถึงอย่างนั้น ความเงียบงันก็ทำให้ท้องไส้ฉันปั่นป่วนอย่างน่ารำคาญแบบที่ฉันพยายามจะไม่ใส่ใจมาตลอดช่วงหลัง

มันจะตายหรือไงถ้าจะพิมพ์มาบอกสักหน่อยว่า นี่ คืนนี้ฉันมีเดตนะ หรือ ออกมากับเพื่อน ไม่ต้องสติแตก หรือแม้แต่ นี่ ฉันไม่ใช่แฟนเธอนะเว้ย ใจเย็นๆ หน่อย?

เฮ้อ ฉันต้องเลิกทรมานตัวเองแบบนี้สักที

“ลูกรัก ช่วยหยิบกระเป๋าให้แม่หน่อยได้ไหมจ๊ะ”

เสียงของแม่ดังแทรกเข้ามาในความคิด ฉันกะพริบตาเมื่อดึงสติกลับมาสู่ความเป็นจริงได้

แม่กับพ่อกำลังจะไปงานศพ—ฉันคิดว่าเป็นเพื่อนของพวกท่านคนหนึ่งที่เสียไปเมื่อเช้ามืดวันนี้

ฉันก็ไม่ค่อยแน่ใจ บางทีฉันควรจะตั้งใจฟังเวลาแม่พูดมากกว่าเอาแต่เหม่อลอยคิดถึงเรื่องของสาวข้างบ้าน

“แม่จะกลับกี่โมงครับ” ฉันถามออกไปตามความเคยชินมากกว่าจะเป็นห่วงจริงๆ

“ไม่ต้องรอนะลูก กว่าจะกลับก็คงดึกแน่ๆ”

ฉันเกือบจะหัวเราะออกมา ไม่ต้องรอ ฟังดูคุ้นๆ เหมือนเป็นวลีเด็ดประจำคืนนี้เลย

ฉันมองนาฬิกาอีกครั้ง—สามทุ่มยี่สิบ

ฉันกินข้าวเย็นแล้ว ไม่อยากดูทีวี และความเงียบในบ้านก็เริ่มจะทำให้ฉันอึดอัด

ฉันคว้ากุญแจรถแล้วมุ่งหน้าไปที่โรงรถ

ฉันไม่ได้ขับรถมาสองสัปดาห์แล้ว และไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจะไปไหน แค่รู้ว่าต้องออกจากบ้านไปเดี๋ยวนี้

ขับรถไปได้หกช่วงตึก ฉันกำลังจะกลับรถตอนที่สายตาเหลือบไปเห็นร่างคุ้นตากำลังยืนรออยู่ริมฟุตบาท

ฉันอดไม่ได้ที่จะยิ้มกว้างพลางบีบแตรแล้วเลื่อนกระจกลง

“แซมมมมมมมมม!”

เธอสะดุ้งโหยงแล้วกุมหน้าอกเหมือนฉันเพิ่งจะลั่นไกปืน “เชี่ยเอ๊ย เจน! ตกใจหมดเลยเนี่ย!”

ฉันก้าวลงจากรถแล้วเข้าไปกอดเธอเร็วๆ ทีหนึ่ง

ฉันมองสำรวจเธอตั้งแต่หัวจรดเท้าแล้วยิ้มเยาะ “โห แต่งตัวจัดเต็มเลยนะ จะไปเข้าโบสถ์เหรอ”

พูดจบฉันก็ได้หมัดนึงที่แขนเป็นรางวัล

“มีปาร์ตี้อยู่ตรงหัวมุมนี่เอง” เธอบอก แก้มเริ่มขึ้นสีชมพู “เพื่อนชวนมาน่ะ”

“เพื่อนเหรอ” ฉันเลิกคิ้วขึ้นข้างหนึ่ง พลางจิ้มแก้มเธอรัวๆ เมื่อเห็นว่าเธอไม่ยอมตอบในทันที

“โอเคๆ!” เธอพูดอย่างร้อนรน “ฉันเจอเขาเมื่ออาทิตย์ที่แล้วที่งานวันเกิดลูกพี่ลูกน้องฉัน เราได้คุยกัน แล้วเขาก็ชวนฉันมาคืนนี้ ตอนนี้ก็กำลังรอเขาอยู่เนี่ย”

อ้อ มิน่าล่ะถึงหน้าแดง

“เฮ้ ไม่เป็นไรน่า” ฉันพูด “ฉันไม่ล้อหรอกน่า... ก็ไม่แน่”

เธอเหลือบตามองบน แต่ฉันเห็นแววขอบคุณในรอยยิ้มของเธอ

“งั้นฉันไปก่อนดีกว่า แต่สัญญาก่อนเรื่องนึง—เธอต้องแนะนำเขาให้ฉันรู้จักด้วยนะ”

“ทำไมไม่ทำตอนนี้เลยล่ะ เขากำลังมาพอดี” เธอพยักพเยิดไปทางด้านหลังฉัน

ฉันหันไปเห็นผู้ชายตัวสูงผมสีน้ำตาลกำลังเดินตรงมาทางเรา เขาก็หน้าตาดีนะ ฉันต้องยอมรับ

“หวัดดีครับ” เขาพูดพลางมองสลับระหว่างเราสองคน

“เดวิด นี่เจนเพื่อนฉัน เจน นี่เดวิด”

เขายื่นมือออกมา “หวัดดีเจน ผมได้ยินเรื่องคุณมาเยอะเลย ยินดีที่ได้รู้จักจริงๆ ครับ”

“เหรอคะ” ฉันเหลือบมองแซมที่เอาแต่หัวเราะคิกคัก

“เอาล่ะ ฉันได้ยินว่าพวกเธอจะไปปาร์ตี้กัน งั้นฉันไปก่อนนะ อย่าดื่มเยอะล่ะแซม”

ฉันกำลังจะกลับขึ้นรถ แต่เดวิดก็รั้งไว้

“ทำไมคุณไม่ไปกับเราล่ะ เป็นวันเกิดเพื่อนสนิทผมเอง เขาไม่ว่าอะไรหรอกถ้าผมจะพาแขกไปเพิ่มอีกคน”

ฉันลังเล ฉันหยิบมือถือขึ้นมาดู ยังไม่มีข้อความจากเอ็มม่า

แหงล่ะ

เอาจริงๆ แล้ว ฉันจะทำอะไรได้อีกล่ะ—กลับบ้านไปนั่งซึมในห้องเพื่อรอข้อความที่อาจจะไม่มีวันส่งมาเนี่ยนะ

ฉันรีบพิมพ์ข้อความส่งไปหาแม่ บอกท่านว่าฉันกำลังจะไปปาร์ตี้

“อืม” ฉันตอบ “เออ เอาวะ”

สองนาทีต่อมา เราก็จอดรถอยู่หน้าบ้านหลังหนึ่งที่ฉันไม่เคยรู้มาก่อนว่ามีอยู่ด้วยซ้ำ มันใหญ่โตมโหฬาร แสงไฟสว่างลอดออกมาจากหน้าต่าง และเสียงเบสของดนตรีก็ดังกระหึ่มจนพื้นถนนสั่นสะเทือน

“ไปกันเถอะ!” แซมยิ้มกว้าง คว้ามือฉันแล้วลากเข้าไปข้างใน

เสียงดังกระแทกใส่ฉันเหมือนคลื่นลูกยักษ์ ผู้คนกำลังเต้นรำ ดื่มเหล้า ตะโกนโหวกเหวก นัวเนียกัน—บางคนแทบจะยืนไม่ไหว มันคือความโกลาหลโดยแท้

ฉันตัวแข็งทื่อ สายตากวาดไปทั่วห้อง นี่มันปกติเหรอ ปาร์ตี้วัยรุ่นมันต้องเป็นแบบนี้ใช่ไหม

แซมคงสังเกตเห็นความอึดอัดที่ฉายอยู่เต็มใบหน้าฉัน เธอโน้มตัวมากระซิบข้างหู “มาเถอะน่า ไปหาอะไรดื่มกัน”

เธอลากฉันเข้าไปในครัวแล้วรินน้ำใส่แก้วสีแดงสองใบ ฉันรับมาหนึ่งใบแล้วจ้องมองมัน

“แซม” ฉันพูด เสียงเบาจนแทบไม่ได้ยินท่ามกลางเสียงเพลง “ฉันว่าฉันกลับดีกว่า”

เธอใช้มือข้างที่ว่างอยู่คว้ามือฉันไว้

“เจน อยู่ก่อนนะ ฉันรู้ว่านี่ไม่ใช่แนวเธอ มันก็ไม่ใช่แนวฉันเหมือนกัน แต่เราเป็นวัยรุ่นนะเว้ย เราก็ต้องมาอะไรแบบนี้บ้าง ขอแค่ครั้งนี้ครั้งเดียวนะ ได้โปรด”

เธอทำตาปริบๆ ส่งสายตาอ้อนวอนสุดฤทธิ์

“เฮ้อ ก็ได้” ฉันถอนหายใจแล้วจิบน้ำในแก้ว

เราหาที่นั่งบนโซฟาในห้องนั่งเล่นได้ ผู้คนยังคงเต้นเบียดเสียดและสะบัดแขนขาไปมาเหมือนชีวิตนี้จะขาดมันไม่ได้

“เห็นไหม ไม่ได้แย่ขนาดนั้นใช่ปะ” เธอตะโกนใส่หูฉัน

ฉันแค่ยกนิ้วโป้งให้เธอ เออ ไม่แย่เลย—ถ้าไม่นับกลิ่นเบียร์กับฮอร์โมนนะ หรือโอกาสที่จะเผลอท้องได้แค่เพราะอยู่ใกล้ๆ กันเนี่ย

“เธอโอเคไหมถ้าฉันจะขอตัวสักสองนาที อยากไปหาเดวิดน่ะ”

ฉันพยักหน้า ดีใจที่จะได้อยู่คนเดียวสักพัก

แต่ฉันไม่ได้อยู่คนเดียวถึงสองนาทีด้วยซ้ำ

ยังไม่ถึงสิบวินาทีด้วยซ้ำ ก็มีคนทิ้งตัวลงนั่งข้างๆ ฉัน

ฉันไม่ได้หันไปมองในทันที มัวแต่พยายามปัดผมของสาวปริศนาคนหนึ่งออกจากหน้าตัวเองอยู่

ฉันหันไป เตรียมจะเอ่ยปากขอพื้นที่อย่างสุภาพ—แต่แล้วดวงตาของฉันก็เบิกกว้าง

“เคท?”


สวัสดีค่ะ นักอ่านที่น่ารักและอารมณ์ขันของไรท์ ไรท์เปิดบัญชี โคไฟ แล้วนะคะ เผื่อใครอยากจะเลี้ยงขนม ส่งของขวัญให้ หรือแค่อยากจะให้กำลังใจกัน ก็แวะเข้าไปดูกันได้เลยที่: โคไฟดอทคอม/ลูนามาร์เซโล :)

ขอบคุณมากๆๆๆ เลยนะคะที่สนับสนุนผลงานของไรท์มาตลอด ไรท์ได้อ่านทุกคอมเมนต์เลย แล้วก็ชอบมากที่ทุกคนอินไปกับเรื่องราวของเรา :)

Previous ChapterNext Chapter