




บทที่ 3: ความกังวลของเขา
เจียงหลานหันหน้าไป ใบหน้าด้านข้างของใครบางคนก็ปรากฏอยู่ใกล้แค่ปลายจมูก
ลู่จิ้งฉืออาบน้ำเสร็จตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ บนตัวมีเพียงผ้าเช็ดตัวผืนเดียวพันอยู่รอบเอว เขากำลังโน้มตัวลงมาอยู่ข้างๆ เธอ
เขาหล่อมากจริงๆ โครงหน้าคมคายได้รูป ขนตายาวงอนสั่นไหวเล็กน้อย เส้นผมที่เปียกชื้นปรกลงมา กลับยิ่งขับให้เขาดูอ่อนโยนขึ้นหลายส่วน
เจียงหลานสะดุ้งตกใจ แต่ลู่จิ้งฉือดูเหมือนไม่ได้สนใจ เขาตอบข้อความซือหนิงแทน จากนั้นวางโทรศัพท์ลงบนโซฟา แล้วหันมามองเจียงหลานพร้อมยื่นมือออกไปราวจะสัมผัสใบหน้าเธอ
รอยแดงบวมบนใบหน้าจางลงมาก หากไม่สังเกตก็แทบไม่เห็นร่องรอย
เซี่ยเหยียนตบแรงมาก เขารู้ว่าเจียงหลานต้องรู้สึกน้อยใจมากแน่ๆ จึงรีบกลับมาก่อนกำหนด
เขาเข้าใกล้ ลมหายใจอุ่นผสมกลิ่นหอมลอยเข้าจมูกเจียงหลาน ใบหน้าเธอแดงขึ้นทันที และถอยหลังออกไปโดยไม่รู้ตัว
การหลบเลี่ยงของเธอทำให้ลู่จิ้งฉือขมวดคิ้วอย่างไม่พอใจเล็กน้อย
เจียงหลานไม่ได้สังเกตเห็นความไม่พอใจของเขา เธอใช้ภาษามือถามเขาว่า: เกิดเรื่องอะไรขึ้นหรือเปล่าคะ?
เรื่องที่ลู่จิ้งฉือไปเดทกับเซี่ยเหยียน เจียงหลานไม่เคยถาม และเขาก็มักไม่กลับบ้านเร็วกว่านี้ ดังนั้นเมื่อเขาเรียกเธอกลับกะทันหัน เธอจึงคิดว่าอาจมีเรื่องด่วนเกิดขึ้น
เจียงหลานมองลู่จิ้งฉือ ดวงตาดำขลับเป็นประกาย แม้ไม่พูดอะไร ก็ทำให้ดูน่ารักและเชื่อฟัง
สีหน้าลู่จิ้งฉือเปลี่ยนเล็กน้อย “ไม่มีอะไร”
เมื่อได้ยินว่าไม่มีอะไร เจียงหลานถอนหายใจโล่งอก แล้วทำภาษามือบอกว่า: งั้นพักผ่อนดีๆ นะคะ
เธอลุกขึ้นเตรียมจะกลับไปที่ห้องของตัวเอง แต่ก็ถูกมือข้างหนึ่งรั้งเอาไว้ เจียงหลานมองลู่จิ้งฉืออย่างไม่เข้าใจ
"เธอตากฝนมา ไปอาบน้ำก่อนเถอะ"
เจียงหลานกำลังจะปฏิเสธ แต่จามออกมาโดยไม่ตั้งใจ เมื่อเห็นคิ้วขมวดของลู่จิ้งฉือ เธอรีบทำภาษามืออธิบายอย่างรีบร้อน: ขอโทษค่ะ ฉันไม่ได้ตั้งใจ ฉัน...
ยังทำภาษามือไม่ทันจบ ร่างของเธอก็พลันลอยหวือขึ้น ลู่จิ้งฉืออุ้มเธอขึ้นมาอย่างไม่คาดคิด! เจียงหลานเบิกตากว้างด้วยความตกใจ
"จะไปเอง หรือจะให้ผมอุ้มไป?"
สีหน้าของลู่จิ้งฉือไม่เปลี่ยนแปลง แถมยังดูเย็นชาอีกด้วย
เจียงหลานรีบทำภาษามือ: ฉันไปเองค่ะ
ลู่จิ้งฉือเหลือบมองเธอแวบหนึ่งก่อนจะยอมวางเธอลง ใบหน้าของเจียงหลานแดงก่ำ เธอไม่สนใจสิ่งอื่นใดอีก รีบหันหลังวิ่งขึ้นไปบนชั้นสองทันที
เธอปิดประตูห้อง สัมผัสได้ถึงจังหวะหัวใจที่เต้นรัวแรงของตัวเอง และอดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมาอย่างขมขื่น
ไม่ใช่เพราะใจสั่นไหว แต่เป็นเพราะความหวาดกลัว
ในวันที่พวกเขาแต่งงานกัน ลู่จิ้งฉือเคยบอกกับเธอว่า ขอเพียงแค่เธอทำตัวว่าง่าย ไม่ตกหลุมรักเขา เขาก็จะดูแลเธอไปตลอดชีวิตเหมือนที่เคยเป็นมา
แต่เธอตกหลุมรักเขาไปนานแล้ว... รักมาเนิ่นนาน เธอเคยพยายามทำหน้าที่ภรรยาที่ดีต่อลู่จิ้งฉือ แต่เพียงแค่วันรุ่งขึ้น เขาก็ไปหาเซี่ยเหยียน
เธอรู้ดีว่าตัวเองเป็นตัวถ่วง ความรู้สึกและอารมณ์ของเธอจะสร้างภาระให้กับเขา ดังนั้นนานวันเข้า...เธอก็ไม่กล้ารักเขาอีกต่อไป
เธอกลัวว่าเขาจะเหยียบย่ำลงบนหัวใจของเธอ... เธอ... ไม่อยากถูกลู่จิ้งฉือทอดทิ้ง
เจียงหลานสูดหายใจเข้าลึกๆ หยิบเสื้อผ้าแล้วเดินเข้าห้องน้ำไป
น้ำอุ่นช่วยชะล้างความหนาวเย็นออกจากร่างกายของเจียงหลาน ทำให้ร่างกายที่แข็งเกร็งของเธอผ่อนคลายลงได้มาก
เมื่อเธออาบน้ำเสร็จและเดินออกมา ลู่จิ้งฉือก็เข้ามาอยู่ในห้องของเธอตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้
ตรงหน้าเขามีขวดเหล้าวางอยู่หนึ่งขวด และซุปอีกหนึ่งถ้วย
ลู่จิ้งฉือกระดกเหล้าเข้าปากหนึ่งแก้ว เมื่อเห็นเธอออกมา เขาก็พยักพเยิดไปทางเธอ
"รีบดื่มตอนยังร้อนๆ นะ"
เจียงหลานเดินเข้าไปหาเขาอย่างว่าง่าย โดยไม่เอ่ยถามอะไรสักคำ เธอยกถ้วยซุปขึ้นดื่ม แต่เพียงแค่คำแรก เธอก็ถึงกับชะงักไป
มันคือน้ำขิงน้ำตาลทรายแดง
ตอนเด็กๆ ครั้งหนึ่งเธอเคยเผลอเป็นหวัด ลู่จิ้งฉือก็เคยต้มน้ำขิงน้ำตาลทรายแดงให้เธอดื่มเช่นกัน ตอนนั้นเขามักจะทำหน้าตาเบื่อหน่ายพลางว่าเธอโง่ แล้วก็จ้องจนกว่าเธอจะดื่มจนหมดถ้วย
พอโตขึ้นมา เขาก็ไม่เคยต้มน้ำขิงให้เธออีกเลย หลังจากแต่งงานกัน เพราะครอบครัวลู่ไม่ชอบเธอ ที่ที่เธออยู่จึงไม่มีแม้แต่แม่บ้านสักคน ทุกสิ่งทุกอย่างเธอต้องลงมือทำด้วยตัวเองทั้งหมด
ตลอดสามปีที่ผ่านมา เธอชินกับชีวิตแบบนี้แล้ว ความห่วงใยกะทันหันของลู่จิ้งฉือทำให้เธอรู้สึกตกใจ