




บทที่ 5
"ฟังฉันอธิบายก่อน มันไม่ได้เป็นแบบในรูปนั่นนะ"
ฉันแทบจะร้องไห้ออกมา แต่น้าสาวไม่แม้แต่จะมองหน้าฉัน "ฉันรู้ว่าเธอไม่ได้ตั้งใจ แต่มันก็เป็นเรื่องจริง ฉันจะบอกพ่อเธอให้ตัดเงินค่าใช้จ่ายของเธอซะ"
"น้าครับ ใจเย็นๆ ยกโทษให้ผมเถอะนะครับ ผมไม่อยากใช้ชีวิตที่เหลือบนรถเข็นนะครับ" ฉันอ้อนวอน
เห็นฉันลำบากใจ น้าสาวก็ยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ "หลานรัก น้าจะให้โอกาสนะ ถ้าเธอไปดื่มกับน้าข้างบนนั่นสักครั้ง น้าจะยกโทษให้"
น้าสาวอยากไปดื่มบนชิงช้าสวรรค์เนี่ยนะ ฉันอึ้งไปเลย ความคิดช่างแปลกประหลาด ฉันลังเลอยู่ครู่หนึ่ง แล้วก็พยักหน้าตกลง
ตอนกลางคืน ชิงช้าสวรรค์ค่อยๆ ลอยสูงขึ้น สำหรับคนอื่นการชมวิวกลางคืนจากที่สูงอาจเป็นเรื่องสวยงาม แต่สำหรับคนกลัวความสูงอย่างฉัน มันคือความทรมาน ฉันนั่งนิ่งไม่กล้าขยับเขยื้อน ทุกครั้งที่ตู้โยกไหวแม้เพียงนิดเดียว ฉันก็แทบจะทรุดลงไป ตอนนี้สมองฉันจินตนาการถึงวิธีตายนับสิบวิธีไปแล้ว
เห็นฉันนั่งขดตัวเหมือนลูกบอล น้าสาวส่ายหน้าแล้วเริ่มดื่มเหล้า หลังจากดื่มไปหลายขวด น้าก็เริ่มเมา และพูดมากขึ้น
ฉันเพิ่งรู้ว่าหลังจากที่น้าถูกพ่อแม่ของแม่เลี้ยงรับเลี้ยง เธอไม่เคยได้รับการปฏิบัติเหมือนลูกแท้ๆ ชีวิตไม่ค่อยมีความสุข สุดท้ายน้าก็พูดถึงฟางซื่อเหม่ย แล้วร้องไห้โฮลงบนตัวฉัน
"อย่าร้องไห้เลยครับ ต่อไปน้าจะได้เจอผู้ชายที่ดีกว่า" ฉันปลอบ
น้าเงยหน้าขึ้น ดวงตาคลอด้วยน้ำตา "พวกผู้ชายน่ะ ไม่มีใครดีสักคน" ฉันรีบแย้งทันที "ใครว่า ผมนี่แหละผู้ชายที่ดี"
น้าสาวที่เมาได้ที่ เอาหน้าเข้ามาใกล้ ใบหน้าแดงก่ำถามว่า "งั้นเธอจะดีกับน้าไหม?" ฉันที่สมองค้างไปชั่วขณะกลับพยักหน้ารับ
น้าสาวลูบใบหน้าฉัน "เธอจะดีกับน้าแค่ไหน" ขณะที่ฉันไม่รู้จะตอบอย่างไร ตู้ชิงช้าก็โยกไหวอย่างกะทันหัน
ฉันเอนพิงผนังตู้ น้าสาวทรงตัวไม่อยู่ล้มลงมาทับฉัน มือทั้งสองโอบรอบคอฉัน ทั้งตัวทาบทับลงมา
กลิ่นแอลกอฮอล์อบอวล เรากอดกันแน่นไม่กล้าพูดอะไร ลมหายใจของน้าหนักหน่วงขึ้นเรื่อยๆ
น้าครางเบาๆ ฉันประคองเธอให้ตรง จูบลงที่ลำคอ น้าร้องเสียงแหลม ได้สติขึ้นมาบ้าง รีบผลักฉันออก มือไม้พันกันจัดการเสื้อผ้า ฉันก็ได้สติกลับมาเช่นกัน
ฉันกับน้าเกือบจะ... บนชิงช้าสวรรค์... ฉันทำอะไรลงไป นี่มันน้าสาวของฉันนะ
บรรยากาศอึดอัด ฉันรู้สึกผิดอย่างมาก รีบเก็บขวดเหล้าใส่กระเป๋า ทั้งสองไม่พูดอะไร ได้แต่ดื่มเงียบๆ กลับถึงบ้านจากสวนสนุก น้าก็เมาไปแล้ว
มองน้าที่นอนหลับอยู่บนเตียง ฉันเกิดความลำบากใจ
น้าเหงื่อออกไม่น้อย เสื้อผ้าก็เปียก จะถอดให้เธอดีไหม
แต่ข้างในเธอใส่นิดเดียวเอง จะถอดหรือไม่ถอดดี ฉันตัดสินใจไม่ได้จึงโยนเหรียญตัดสิน หัว! ถอด!
ฉันลนลานถอดเสื้อผ้าน้า ไม่คิดว่าจะทำให้น้าตื่น เธอกระชากเสื้อนอกออกเอง ฉันตาค้างมอง แต่เธอเป็นน้าฉันนะ ฉันก้มลงห่มผ้าให้เธอ
ใครจะรู้ว่าน้าจะเตะผ้าห่มทิ้ง ขาทั้งสองรัดเอวฉันแน่น ฉันทรงตัวไม่อยู่ ล้มทับลงไป น้ากอดฉันแน่น ครางว่า "ฉัน...อยาก...นั่น..."
ฉันที่ถูกรัดไว้ตกใจมาก รู้สึกร้อนวูบวาบที่ท้องน้อย
น้าหรี่ตา เกี่ยวคอฉัน แล้วจูบขึ้นมา เธอส่งลิ้นเข้ามาในปากฉัน คลอเคลียอยู่ข้างใน
เห็นน้าเป็นเช่นนี้ ไฟในตัวฉันลุกโชน ไม่สนใจสถานะของเราอีกต่อไป
เสียงของเธอทำให้ฉันสิ้นสติ น้าบิดเร่าร่าย ครางเสียงดัง แล้วร้องออกมา "อ๊ะ~ ซื่อเหม่ย!"
น้าเรียกชื่อฟางซื่อเหม่ย! เธอเข้าใจผิดคิดว่าฉันเป็นคนอื่น!
เหมือนโดนสาดน้ำเย็น การเคลื่อนไหวของฉันหยุดชะงักทันที
ในสถานการณ์แบบนี้ ใครก็ต้องได้สติ ฉันที่สงบลงแล้วตระหนักว่าตัวเองกำลังทำอะไรอยู่
ฉันเกือบจะมีอะไรกับน้า! นี่มันฉวยโอกาสคนเมา ฉันตบหน้าตัวเองเต็มแรง แล้วลุกออกจากตัวน้า
น้าที่ยังไม่ได้สติดึงฉันไว้ ฉันห่มผ้าให้เธอ กล่อมให้นอน น้าที่เมาหลับไปอย่างรวดเร็ว ฉันเป็นห่วงว่าตอนกลางคืนเธออาจเป็นอะไร ถ้าอาเจียนล่ะ? ฉันเลยเอาผ้าห่มมาปูนอนที่พื้น จะได้ดูแลเธอ
คืนนั้นฉันหลับสนิท ตอนเช้าฉันถูกปลุกให้ตื่น ลุกขึ้นมาดู ความง่วงหายวับ น้าเพิ่งตื่นนอน ตอนนี้เธอเปลือยกาย
ฉันมองจนตาค้าง เธอหยิบเสื้อผ้ามาสวม ไม่สนใจฉัน
น้าทำเหมือนฉันไม่มีตัวตน? คิดอีกที ฉันก็เข้าใจ ฉันนอนอยู่ที่พื้น นอนเงียบๆ
น้าตื่นมาอาจไม่ทันสังเกตว่ามีฉันอยู่! เรื่องอะไรกัน ฉันนิ่งไม่กล้าส่งเสียง แต่ไม่นานน้าก็เห็นฉัน กรีดร้องออกมา
เธอรีบเอาผ้าห่มมาคลุมตัว เรามองตากัน ฉันยิ้มแหยๆ "อรุณ...สวัสดิ์ครับ"
"กรี๊ด! ไอ้ลามก!" น้ากรีดร้อง ขว้างหมอนใส่หน้าฉัน ฉันรีบพูด "ฟังผมอธิบายก่อน"
"ไปให้พ้น! ออกไป!" น้าร้องไห้ หยิบอะไรได้ก็ขว้างใส่ฉัน ฉันหนีออกจากห้องอย่างหมดท่า รู้งี้เมื่อคืนกลับไปนอนห้องตัวเองดีกว่า
เช้านี้ผ่านไปทั้งเช้า น้าไม่ออกมาเลย ฉันเรียกให้มากินข้าวเที่ยง น้าถึงได้ขานรับ
ด้วยความรู้สึกผิด ฉันทำอาหารเต็มโต๊ะ น้าทำหน้าบึ้งกินข้าว ฉันชวนคุย "น้าครับ กินเยอะๆ นะครับ นี่น่ะสะโพกไก่ที่น้าชอบ"
"หึ! ใครให้เธอเข้าห้องฉัน?" น้าจ้องฉัน ฉันอธิบาย "เมื่อคืนน้าเมามาก ผมเป็นห่วง เลยอยู่เฝ้าดูแล"
พูดถึงเมื่อคืน น้ากลับหน้าแดง พระเจ้า เธอจะจำได้หรือเปล่าว่าเมื่อคืนฉันกับเธอ...
"ฉันจะควักลูกตาเธอออกมา" น้าขู่ฉัน ฉันส่ายหน้า "ผมสายตาสั้นมาก มองไม่เห็นอะไรทั้งนั้น" จริงๆ สายตาผม 0.5 มองเห็นชัดแจ๋ว
น้าข่มขู่ "ฉันจะไม่เอาเรื่องกับเธอก็ได้ แต่เธอต้องช่วยฉันเก็บความลับอย่างหนึ่ง" ฉันแกล้งทำเป็นความจำเสื่อม "ผมจำอะไรไม่ได้เลย"
น้าอายจนโกรธ "เฮอะ! ฉันไม่ได้พูดถึงเรื่องนั้น ฉันไปสมัครงานที่ผับแล้ว เรื่องนี้ยังไงก็ปิดบังพี่สาวฉันไม่ได้นาน เธอต้องช่วยฉันเก็บความลับ ห้ามให้พี่สาวฉันรู้เด็ดขาด"
"อะไรนะ! ทำงานที่ผับ? งานอะไร?" ฉันถาม
น้าทำหน้านิ่ง "ตกใจอะไรขนาดนั้น ฉันสมัครเป็นนักร้องและนักเต้นที่ผับ" น้าเรียนมาทางนี้ นี่เองที่ทำให้เสียงไพเราะ รูปร่างก็ดี
"ผับเป็นที่แบบนั้น ผู้หญิงไปทำงานไม่ดีนะครับ แล้วทำไมน้าไม่ไปหาที่แสดงที่ปกติกว่านี้ล่ะ" ฉันเกลี้ยกล่อม
น้าชายตามองฉัน "งานที่ฉันสมัครเวลาน้อย อิสระ เงินเดือนก็สูง ทำไมจะไม่ไป"
ฉันพูดไม่ออก ขมวดคิ้ว น้าพูดอย่างใจเย็น "ไม่ต้องห่วง ฉันจะระวังตัว แล้วเขาก็ยังไม่ได้บอกว่าจะรับฉันหรือเปล่าเลย ถ้าฉันได้งาน เธอต้องช่วยเก็บความลับนะ ไม่งั้นเธอแย่แน่"
ฉันถอนหายใจในใจ ส่ายหน้า กับความสวยของน้า เข้าไปในผับ คนเขาคงแย่งกันรับ แต่ฉันก็ห้ามไม่ได้ ปล่อยเธอไปเถอะ
น้ากินสะโพกไก่พลางพูด "บ่ายนี้ไปสัมภาษณ์กับฉันนะ" ฉันพยักหน้ารับ จะได้ดูว่าอันตรายแค่ไหน
บ่ายนั้น ฉันไปกับน้าที่ผับชื่อ "รอยัลบาร์"
ตอนกลางวันไม่มีลูกค้า ผู้จัดการผับรับพวกเราอย่างรวดเร็ว ฉันดูประกาศรับสมัคร สวัสดิการดีทีเดียว ไม่แปลกที่วันนี้มีคนมาสัมภาษณ์เยอะ ผู้หญิงแต่งตัวฉูดฉาด ผู้ชายแต่งตัวดูดี
แต่เทียบกับน้าแล้วต่างกันลิบลับ น้ายืนตรงนั้น โดดเด่นกว่าใครๆ ผู้จัดการผับเห็นน้าปราดเดียว มองตั้งแต่หัวจรดเท้าแบบลวนลาม
ผู้จัดการแจกใบสมัครให้ทุกคน
หลังกรอกใบสมัครเสร็จ ผู้จัดการผับพูด "สวัสดิการของรอยัลเราดีมาก แต่ก็มีข้อเรียกร้องสูง คนที่มีความสามารถพิเศษจะได้รับการพิจารณาก่อน"
คนที่นั่งมองหน้ากัน ไม่มีใครพูด ล้วนแต่สวยแต่รูปจูบไม่หอม น้าลุกขึ้นอย่างมั่นใจ "ฉันจะร้องเพลง"
น้าเรียนดนตรีมาจริงๆ เสียงไพเราะ จังหวะทำนองก็แม่นยำ ทุกคนปรบมือ ผู้จัดการผับยิ้มอย่างมีนัย "ร้องได้ไม่เลว แต่เพลงป๊อปแบบนี้ไม่ค่อยเหมาะกับผับ คุณมีความสามารถอื่นไหม อะไรที่กระตุ้นบรรยากาศได้น่ะ"
น้ายิ้มยั่วยวน เดินช้าๆ ไปกลางฟลอร์ จับเสาโลหะแล้วพูด "งั้นฉันจะเต้นรำกับเสาให้ดูสักหน่อย"