




บทที่ 5
ลิ่วจวิ่นกังมองไปเห็นว่าตอนนี้คอเสื้อของหวังต้าหยาฉีกขาดกว้าง เพื่อไม่ให้เผยให้เห็นส่วนสำคัญ เธอจึงต้องเอามือทั้งสองปิดคอเสื้อไว้
"ลิ่วจวิ่นกัง นายทำแบบนี้ตั้งใจใช่ไหม"
"จะเป็นไปได้ยังไง ฉันเพิ่งช่วยชีวิตเธอจากกีบหมูนั่นนะ แล้วยังจะพูดกับฉันแบบนี้อีก เฮ้อ โลกนี้ทำคนดีช่างยากเสียจริง" ลิ่วจวิ่นกังพูดพลางทำท่าถอนหายใจอย่างเศร้าสร้อย หวังต้าหยาก็รู้สึกว่าตัวเองไม่ค่อยถูกเหมือนกัน เพราะเมื่อครู่ลิ่วจวิ่นกังวิ่งมาช่วยเธอจริงๆ
"ก็ได้ งั้น...นายช่วยจูงแกะมาให้ฉันหน่อยได้ไหม" เพราะเมื่อครู่หมูตัวนั้นพุ่งเข้ามาอย่างกะทันหัน ทำให้หวังต้าหยาไม่ทันตั้งตัว พลั้งมือปล่อยเชือกหลุด ตอนนี้แกะที่ไม่มีเชือกผูกก็เริ่มเดินไปมา หยุดบ้างเดินบ้าง แทะกินไปทั่ว ที่สำคัญคือมันเริ่มแทะต้นกล้าที่เพิ่งงอกขึ้นมา ในหมู่บ้าน พืชผลเป็นชีวิตของทุกคน ถ้าทำพืชผลของบ้านใครเสียหาย เขาต้องเอาเรื่องกับเธอแน่ๆ หวังต้าหยาเห็นแกะของตัวเองอาจจะกำลังจะเล็งไปที่พืชผลพวกนั้น ก็ตกใจรีบขอความช่วยเหลือจากลิ่วจวิ่นกัง
"เฮอะ เธอไม่ใช่ว่าขยับเองไม่ได้นี่ แค่คอเสื้อฉีกนิดหน่อยเอง"
"นาย..." หวังต้าหยาจ้องลิ่วจวิ่นกังด้วยความโกรธ แต่ก็พูดอะไรไม่ออก ส่วนลิ่วจวิ่นกังกลับสงสัย ตามปกติเด็กคนนี้ไม่น่าจะขี้อายขนาดนี้ แค่เสื้อฉีกนิดหน่อย ไม่ใช่อะไรอื่น หรือว่า...มีเหตุผลอื่นอีก แต่ตอนนี้แกะเดินไปถึงขอบทุ่งแล้ว เห็นได้ชัดว่ากำลังจะเข้าไปในแปลงนา หวังต้าหยาก็ตกใจ
"ลิ่วจวิ่นกัง...พี่ลิ่ว ช่วยฉันหน่อยนะ" เสียงของหวังต้าหยามีแววสั่นเครือ เพราะแกะของเธอกำลังจะวิ่งเข้าไปในที่นาของลิ่วหมานจื่อ หวังต้าหยารู้ว่าลิ่วหมานจื่อเป็นคนแบบไหน ถึงแม้จะแซ่ลิ่วเหมือนกับลิ่วจวิ่นกัง แต่ไม่มีความเกี่ยวข้องอะไรกัน และที่สำคัญคือเขาเป็นคนเกเร บางครั้งแม้แต่ผู้ใหญ่บ้านก็ยังไม่สนใจ พ่อของเธอถึงจะเป็นผู้ใหญ่บ้านก็เถอะ แต่เจอคนเกเรแบบนี้ก็ทำอะไรไม่ได้
ดังนั้นตอนนี้หวังต้าหยาจึงตกใจจริงๆ ลิ่วจวิ่นกังเห็นเด็กคนนี้ตาแดงๆ จึงรีบพูด "ได้ๆๆ ไปเอาแกะมาให้เธอเอง" ลิ่วจวิ่นกังไม่ได้รู้สึกไม่ดีกับหวังต้าหยา เธอเคยเรียนหนังสือ มีบุคลิกพิเศษแบบที่คนเรียนหนังสือมาเท่านั้นจะมี ลิ่วจวิ่นกังก็ทนดูเด็กคนนี้น่าสงสารไม่ได้ เขาจึงเดินไปจับเชือกแล้วจูงแกะกลับมา
"นี่ ทำไมเธอไม่ไปเอาเองล่ะ" ลิ่วจวิ่นกังถาม เห็นหวังต้าหยาหน้าแดงก่ำ ดูน่ารักมาก
ลิ่วจวิ่นกังมองหวังต้าหยาอย่างพินิจ ตอนนี้เขาถึงเพิ่งสังเกตว่าที่ตัวเองกระชากเมื่อกี้น่าจะเป็นบริเวณเอวของหวังต้าหยา ส่วนคอเสื้อนั้นอาจจะฉีกไปด้วย แต่จริงๆ แล้วจุดสำคัญน่าจะอยู่ที่กางเกงของหวังต้าหยา ตอนนี้หวังต้าหยายังนั่งอยู่บนพื้น ลิ่วจวิ่นกังเพียงแค่มองดีๆ ก็เห็นว่ากางเกงของหวังต้าหยาฉีกเป็นรอยยาว จากเอวลงไปถึงต้นขา และรางๆ มองเห็นเงาสีชมพูอ่อนๆ
"เฮ้ย นายมองอะไร" หวังต้าหยาเห็นลิ่วจวิ่นกังจ้องไม่กะพริบตา ก็รู้ว่าเขาอาจจะพบเรื่องนั้นแล้ว จึงหดตัวเล็กน้อย ภาพนี้ยิ่งทำให้ลิ่วจวิ่นกังแน่ใจในสิ่งที่เขาคาดเดา
"ต้าหยา มานี่ เชือกให้เธอ" ลิ่วจวิ่นกังแกล้ง พูดว่าจะให้เชือกแต่ไม่ยอมเดินเข้าไปสักก้าว ถ้าหวังต้าหยาอยากได้เชือก ก็ต้องลุกขึ้นเดินมาเอาเอง แต่ถ้าลุกขึ้น...นั่นก็จะเผยทุกอย่างให้ลิ่วจวิ่นกังเห็นหมด หวังต้าหยาลังเล
แต่ตอนนี้มีควันลอยขึ้นจากหลังคาบ้านหลายหลังในหมู่บ้านแล้ว อีกสักพักก็จะมีคนมา หวังต้าหยาคิดถึงตรงนี้ ก็ไม่สนใจว่าตัวเองจะเปิดเผยต่อหน้าลิ่วจวิ่นกังแล้ว ตัดสินใจเด็ดขาด มือข้างหนึ่งปิดหน้าอก อีกข้างดึงกางเกง เดินไปหาลิ่วจวิ่นกัง เห็นว่าใกล้จะถึงแล้ว ลิ่วจวิ่นกังก็ถอยหลังไปสองสามก้าวเหมือนแกล้ง
"นาย...นายจะทำอะไร"
"ต้าหยา ฉันช่วยชีวิตเธอก่อน แล้วก็จูงแกะกลับมาให้ เธอไม่คิดจะตอบแทนฉันบ้างเหรอ"
"บ้าน่า ฉันไม่มีเงินนะ" หวังต้าหยาพูดอย่างโกรธๆ
"ไม่ ฉันไม่ต้องการเงินหรอก แค่ให้ฉันจับสักหน่อย..." พูดพลางสายตาของลิ่วจวิ่นกังก็กวาดมองไปที่หน้าอกของหวังต้าหยา มีแววตาไม่ดี
"นาย...นายอย่าคิดนะ ไอ้ลามก!" หวังต้าหยาเห็นสายตาแบบนั้นของลิ่วจวิ่นกัง ก็เข้าใจทันทีว่าเขาคิดจะทำอะไร
"ต้าหยา ดูสิ ถ้ายังยืนเถียงกันอยู่แบบนี้ เดี๋ยวก็มีคนมาแล้ว อีกอย่าง แค่ให้ฉันจับนิดหน่อยก็ไม่เห็นเป็นไรนี่" หวังต้าหยาคิดดู ก็จริงของเขา แต่พอนึกว่าตัวเองจะถูก... ก็อดหน้าแดงไม่ได้
"ได้...ก็ได้" สุดท้าย หวังต้าหยาก็ไม่รู้ว่าทำไมตัวเองถึงพูดแบบนั้นออกไป แล้วก็ก้มหน้าด้วยความอาย ลิ่วจวิ่นกังเห็นแล้วก็รู้ว่าสำเร็จแล้ว เขาเดินเข้าไปกำลังจะยื่นมือออกไป ก็ได้ยินเสียงของหวังต้าหยาเบาเหมือนยุง
"จะ...จะได้ไหม ไม่ทำที่นี่ ตรงโน้น...ตรงโน้นมีป่า" ลิ่วจวิ่นกังคิดดู ก็ใช่ เพราะตอนนี้อยู่กลางทุ่ง ถ้าเกิดมีใครเห็นเข้าจริงๆ ก็ไม่ดี เขาจึงตีหมูตัวโง่ของตัวเองหนึ่งที หมูร้องด้วยความเจ็บปวดแล้ววิ่งกลับคอกไป
จากนั้นลิ่วจวิ่นกังก็อุ้มหวังต้าหยา หวังต้าหยาจูงแกะ เดินเข้าไปในป่า ผูกแกะไว้กับต้นไม้ต้นหนึ่ง แล้วหวังต้าหยาก็หลับตาเหมือนยอมรับชะตากรรม ร่างกายสั่นไม่หยุด รอคอยสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น จริงๆ แล้วตอนที่หวังต้าหยาเรียนมัธยมปลายในเมือง เธอเคยได้ยินเพื่อนผู้หญิงพูดถึงการทำเรื่องแบบนั้นกับแฟน แต่เธอเป็นสาวบริสุทธิ์ และยังไม่มีแฟนด้วย ลิ่วจวิ่นกัง...ลิ่วจวิ่นกังถ้าคิดจะ... ไม่ได้ ไอ้หมอนี่ไม่รู้ทำไมถึงมีอะไรคลุมเครือกับเด็กสาวเออ้วยที่อยู่ทางตะวันตกของหมู่บ้าน เธอไม่ยอมแน่ๆ
อย่างน้อย...เขาก็ต้องตัดขาดกับเด็กสาวเออ้วยคนนั้นก่อน ในขณะที่หวังต้าหยากำลังคิดวุ่นวาย ก็รู้สึกเย็นที่หน้าอก ทันใดนั้นก็รู้ตัวว่าลิ่วจวิ่นกังดันเสื้อของเธอขึ้นไปถึงเหนืออก ลิ่วจวิ่นกังเหมือนคนมีประสบการณ์ ค่อยๆ ดันเสื้อของหวังต้าหยาขึ้นไปอย่างนุ่มนวล เผยให้เห็นชุดชั้นในสีชมพู จริงๆ แล้วหวังต้าหยาอายุก็แค่สิบแปดสิบเก้า กำลังอยู่ในวัยสาว และยังมีบุคลิกของนักเรียน ทำให้ลิ่วจวิ่นกังรู้สึกหลงใหล เป็นความรู้สึกที่ไม่มีในตัวน้องสาวน้องชาย
ลิ่วจวิ่นกังตื่นเต้นดันชุดชั้นในขึ้นไปด้วย เผยให้เห็นหน้าอกขาวเนียน มีจุดสีชมพูอ่อนสองจุดอยู่บนยอด หวังต้าหยารู้สึกว่าชุดชั้นในของตัวเองถูกเลิกขึ้น จากนั้นมือใหญ่ที่ร้อนผ่าวก็ปกคลุมหน้าอกของเธอ