




บทที่ 1
ปีนั้น ฉันได้สัมผัสประสบการณ์ "ครั้งแรก" มากมายในชีวิต
เมื่อทำงานได้สามเดือน สำนักงานแจ้งให้ฉันไปอบรมระบบงานต่างจังหวัด พร้อมกับพี่ลั่น จากอีกแผนกหนึ่ง
เพิ่งเข้าทำงานใหม่ๆ ยังไม่รู้อะไรเลย ตลอดทาง ฉันได้แต่คอยถือกระเป๋าให้พี่ลั่นอย่างระมัดระวัง ส่วนพี่ลั่นก็ดูจะพอใจที่มีพนักงานใหม่อย่างฉันคอยรับใช้ เธอจึงสวมรองเท้าส้นสูงเดินนำหน้าราวกับหงส์ขาวอันงดงาม
พี่ลั่นเดินได้อย่างมีเสน่ห์ ขาทั้งสองข้างก้าวอย่างมีจังหวะจะโคน กระทบหัวใจอันบอบบางของฉัน เงาร่างอันงดงามชวนหลงใหลนั้นทำให้ฉันอดใจไม่ไหวที่จะคิดในเชิงชู้สาว แต่ความคิดเหล่านั้นก็ถูกฝังลึกอยู่ในใจ เพราะฉันยังไม่มีรถบีเอ็มดับเบิลยู
ฉันกับพี่ลั่นทำงานที่เดียวกัน แม้จะยังไม่สนิทกันมากนัก แต่เราก็ทานข้าวและเข้าเรียนด้วยกันอย่างเป็นธรรมชาติ ในสายตาเธอ ฉันเป็นเพียงแรงงานฟรี แม้แต่โทรศัพท์มือถือ เธอก็ยัดใส่มือฉันโดยไม่เกรงใจ อ้างว่าต้องการฝึกฝนฉันให้ดี
ขณะที่พูดประโยคนั้น แววตาของพี่ลั่นเต็มไปด้วยนัยลึกซึ้ง ฉันซึ่งเพิ่งเข้าสู่สังคมการทำงานไม่รู้ว่าแววตานั้นหมายความว่าอะไร รู้แต่เพียงว่า พี่ลั่นช่างมีเสน่ห์ความเป็นหญิงเหลือเกิน ทุกอากัปกิริยา ทุกรอยยิ้มของเธอทำให้ฉันสั่นสะท้าน ฉันไม่เคยคิดมาก่อนว่าผู้หญิงคนหนึ่งจะทำให้ฉันหลงใหลได้ถึงเพียงนี้
ผู้เข้าอบรมจากระบบงานเดียวกันทั่วจังหวัดมีประมาณสองร้อยกว่าคน ห้องเรียนใหญ่แบบนี้ มีคนหลากหลาย แต่มีกฎเกณฑ์อย่างหนึ่งที่น่าขบคิด นั่นคือ ดูเหมือนว่าข้างๆ ผู้หญิงทุกคนจะมีผู้ชายนั่งอยู่เสมอ แม้ไม่มี ก็จะมีสายตาของผู้ชายจับจ้องอยู่ไม่ไกล
ฤดูกาลแห่งความคึกคะนอง ยุคสมัยแห่งความเร่าร้อน ใครเล่าจะกลั้นหัวใจที่กระสับกระส่ายได้?
ไม่รู้ว่าตั้งใจหรือไม่ตั้งใจ พี่ลั่นมักชอบนั่งแถวหลังสุดเสมอ ซึ่งสำหรับนักเรียนเรียนดีอย่างฉันที่ชอบนั่งแถวหน้า มันทำให้รู้สึกไม่คุ้นชินอยู่บ้าง
แต่เพื่อตอบสนองต่อบรรยากาศโดยรวม ฉันก็ยินดีที่จะนั่งแถวหลังกับพี่ลั่น ในใจก็รู้สึกหวานซึ้ง เพราะได้สัมผัสกลิ่นหอมอ่อนๆ จากตัวเธอ
ในฐานะคนที่ไม่เคยใกล้ชิดผู้หญิงมาก่อน ฉันไม่รู้ว่ากลิ่นหอมนั้นหมายความว่าอะไร รู้แต่เพียงว่า กลิ่นนั้นทำให้ฉันหลงใหล หลายครั้งที่ฉันหายใจเข้าลึกๆ โดยไม่รู้ตัว เพียงเพื่อให้กลิ่นหอมนั้นอยู่ในร่างกายฉันนานๆ
คนเข้าเรียนเยอะมาก เพราะระยะห่างไกลเกินไป พวกเราที่นั่งแถวหลังจึงไม่ใช่กลุ่มที่อาจารย์สนใจ ดังนั้น ฉันกับพี่ลั่นจึงมักกระซิบกระซาบกันเบาๆ
และฉัน ก็เป็นผู้ฟังที่ซื่อสัตย์มาตลอด ไม่ใช่ว่าฉันไม่อยากพูด แต่เพราะฉันมัวแต่จ้องริมฝีปากสีชมพูของเธอจนเคลิ้ม ริมฝีปากสีชมพูนั้นเหมือนสนามแม่เหล็กขนาดใหญ่ที่มีเสน่ห์ดึงดูดอย่างแรง ทำให้ฉันมีแรงผลักดันอยากจะจุมพิตสักครั้ง
แต่ฉันไม่กล้า ฉันไม่กล้าล่วงเกินแม้แต่ก้าวเดียว เพราะฉันยังไม่มีรถบีเอ็มดับเบิลยู เพราะฉันยังไม่มีทุนรอนที่จะจีบผู้หญิง
แต่หลังจากเหตุการณ์หนึ่ง ทำให้ฉันเปลี่ยนความคิดไปโดยสิ้นเชิง
ที่แท้ แม้ไม่มีรถบีเอ็มดับเบิลยู ก็สามารถจีบผู้หญิงได้ และยังเป็นผู้หญิงระดับพรีเมียมอีกด้วย