




บทที่ 2
เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว เมื่อใกล้เวลาเลิกงาน พนักงานทั้งแผนกเริ่มนั่งไม่ติด ทุกคนเริ่มกระซิบกระซาบสนทนา พูดคุยเรื่องซุบซิบนินทา ช่วงนี้เรื่องส่วนตัวของเจ้านายอยู่ในปากของทุกคน บางคนบอกว่าเจ้านายใหญ่วัยสามสิบกว่านี่เป็นเกย์ ชอบผู้ชายและยังชอบคบหาดูใจกับผู้ชายหลายคนในเวลาเดียวกัน บางคนเพื่อให้ได้ขึ้นเตียงเขาก็ทุ่มสุดตัวยั่วยวน หากรับใช้ได้ถูกใจก็จะได้รับรางวัลตอบแทน แม้แต่หัวหน้าแผนกบางคนก็เคยมีความสัมพันธ์กับเจ้านาย
หมู่ซือเหวินคิดไม่ออกจริงๆ ว่าตัวเองธรรมดาสามัญแท้ๆ ทำไมถึงได้ถูกตาต้องใจเจ้านายใหญ่ที่เจ้าชู้คนนี้ ถึงขั้นทำสัญญาอุปถัมภ์สามเดือน เขามีเงินไม่รู้จะใช้ยังไงหรือมีเงินมากจนเผาผลาญไม่หมด?
ยังคิดไม่ทันตก เพื่อนร่วมงานรอบข้างต่างเก็บข้าวของพุ่งไปที่ลิฟต์หน้าประตู มีลิฟต์ทั้งหมดสองตัว ตัวหนึ่งเป็นลิฟต์ส่วนตัวของเจ้านาย อีกตัวพนักงานหลายแผนกใช้ร่วมกัน ใครช้าแม้แต่นิดเดียวก็ต้องรออีกสิบกว่านาที
มองฝูงชนแน่นขนัดที่หน้าประตู หมู่ซือเหวินไม่มีอารมณ์จะไปเบียดลิฟต์กับพวกเขา บันไดที่ไร้ผู้คนกลับให้พื้นที่เขาได้คิดทบทวน สิบสามชั้นเดินลงมา แม้แต่คนแข็งแรงก็ต้องขาอ่อน ยิ่งเป็นหมู่ซือเหวินที่นั่งออฟฟิศทั้งวัน ก้าวเดินกะเผลกไปทางสถานีรถไฟใต้ดิน
บนทางม้าลายมีผู้คนหลากหลายรูปแบบ เร่งรีบวุ่นวาย ชีวิตที่เร่งรีบบีบคอหมู่ซือเหวินจนหายใจไม่ออก รถไฟใต้ดินแน่นขนัดรอไปอีกขบวนแล้วขบวนเล่า ไม่มีวันที่ตู้โดยสารจะโล่งสบาย กลับถึงบ้าน หน้าประตูมีไม่เพียงใบแจ้งค่าน้ำค่าไฟ ยังมีโน้ตทวงค่าเช่าจากเจ้าของห้อง ในหนึ่งวัน ทุกเรื่องที่ทำให้เขาหนักใจพุ่งเข้ามาพร้อมกัน ทลายภาระบนบ่าเขาลง
"ฮัลโหล ลูก วันนี้กินอะไรมาล่ะ?" เสียงแม่ดังมาจากวิดีโอคอล หมู่ซือเหวินมองหม้อชาบุสำเร็จรูปตรงหน้า ยิ้มเจื่อนๆ "เมื่อวันก่อนเพิ่งเรียนทำอาหารจานหนึ่งจากอินเทอร์เน็ต วันนี้ลองทำดูรสชาติยังไม่ค่อยถูก เลยกินได้น้อย"
แม่ใจหายวาบ "แบบนี้ไม่ได้นะ ดูสิ ออกไปทำงานแล้วกินข้าวยังไม่ดี ร่างกายจะไหวได้ยังไง รอเมื่อไหร่กลับมา แม่จะทำอาหารเต็มโต๊ะให้"
ไม่รู้ทำไม คำพูดที่เคยได้ยินบ่อยๆ วันนี้กลับรู้สึกเศร้าเป็นพิเศษ หมู่ซือเหวินกลืนความรู้สึกเศร้าลงไป พูดด้วยน้ำเสียงร่าเริงว่า "อืม ได้ ก็คิดถึงอาหารที่แม่ทำอยู่เหมือนกัน อ้อใช่ พ่อสุขภาพเป็นไงบ้าง ไปตรวจติดตามอาการที่โรงพยาบาลรึยัง?"
"พ่อไม่เป็นไรนะ จะตรวจอะไรให้เปลืองเงิน" พ่อไม่ได้ปรากฏตัวในกล้องแต่เสียงกังวานหนักแน่น "เธอไม่ต้องเป็นห่วงพวกเรา ดูแลตัวเองให้ดีก็พอ"
นึกย้อนไปว่าตัวเองเรียนจบมาสามปีแล้วยังเก็บเงินไม่ได้สักเท่าไหร่ พ่อผ่าตัดเสร็จยังไม่ได้ไปตรวจติดตามอาการเลย ตัวเองก็พูดไม่ออกว่า "อย่าสนใจเรื่องเงิน" แม้แต่ค่าเช่าบ้านก็ยังต้องยืมเงินพ่อแม่ ฟางเส้นสุดท้ายทลายหมู่ซือเหวินลงอย่างสิ้นเชิง เขาไม่อยากใช้ชีวิตแบบวันต่อวันอีกต่อไป
วางสาย เขานอนบนเตียงเริ่มพิจารณาสัญญาฉบับนั้น นอกจากต้องขายเนื้อขายตัวเหมือนเป็นเด็กบริการ เรื่องอื่นดูเหมือนไม่มีอะไรที่รับไม่ได้
ขณะที่ความคิดเขาเริ่มสั่นคลอน ข้อความสั้นจากเบอร์ที่ไม่รู้จักส่งเข้ามา: "เลิกทำตัวเย็นชาแกล้งทำเฉยได้แล้ว นายชอบฉันมานานแล้วไม่ใช่เหรอ? เซ็นสัญญานั่นสิ แล้วฉันจะช่วยแก้ปัญหาทุกอย่างให้นาย"