




บทที่ 4
วรรณกรรมจีน
เวยเตรียมการไปเรียนต่อต่างประเทศมาตั้งแต่ครึ่งปีก่อน ทุกคนในโลกรู้กันหมดแล้ว มีแค่ฉันที่ถูกปิดบัง
ช่างโง่เง่าเสียจริง
คบกันมาเกือบสามปี ตามใจรับใช้เธอทุกอย่าง อดทนไม่แตะต้องเธอ ไม่นึกเลยว่าสุดท้ายจะจบลงแบบนี้
ตอนนั้นฉันงงงวย แต่มั่นใจเหลือเกินว่า ฉันถูกเขาหลอกใช้เหมือนไอ้งั่ง
ฉันจำไม่ได้แล้วว่ากลับหอพักชายยังไง จำได้แค่ว่าฟางเชี่ยนลากฉันไว้ พร่ำพูดอะไรต่อมิอะไรข้างหูฉัน จนฉันรำคาญจนทนไม่ไหว ไล่เธอไปซะ
ฉันนอนเหมือนซากศพอยู่ในหอสามวัน รู้สึกเหมือนฟ้าถล่มทลาย คนอื่นเขารวยเงินรวยรัก แต่ฉันกลับไม่เหลืออะไรเลย ทั้งอาชีพทั้งความรักมืดมนไปหมด
ฉันคิดถึงความตาย
แต่หลังจากถูกความหิวรุมเร้าครั้งที่สามสิบสอง ฉันก็เริ่มมีสติขึ้นมา
ฉันนึกถึงน้าสาวที่บ้าน เธอเหนื่อยยากส่งฉันเรียน หวังแค่ให้ฉันสร้างชื่อเสียงให้ครอบครัวสักวัน แค่เรื่องแค่นี้จะมาฆ่าตัวตาย ยังจะเรียกตัวเองว่าผู้ชายอีกหรือ
ไม่ได้ ฉันต้องลุกขึ้นไปหาอะไรกิน
เวยทิ้งฉันไป ฉันก็ไปหาจางเวย หลี่เวย จื่อเวยได้ ทำไมต้องผูกคอตายเพราะผู้หญิงคนเดียวด้วย
ไปทำงานที่เรือนจำหญิงมันเป็นไรนักหนา ดูเหมือนเสียชื่อ แต่อย่างน้อยก็เป็นงานราชการ มีคนอิจฉาตาร้อนอีกมากนัก แค่ไม่ยอมแพ้ สักวันพี่ชายคนนี้ต้องได้ลืมตาอ้าปาก
ด้วยความคิดอันยิ่งใหญ่ว่าสักวันต้องได้ดี ฉันพยายามลากตัวเองออกจากหอพักชาย
ยังไงก็ตาม ไปโรงอาหารซดข้าวต้มฟรีสักสองชามก่อนดีกว่า
แต่ชีวิตช่างขรุขระ ยิ่งเกลียดใครเท่าไหร่ คนนั้นก็ยิ่งโผล่มาขวางหน้า
"เฮ้ย นี่มันหลินหยางนักเรียนเรียนเก่งนี่นา ได้ยินว่าจะไปทำงานที่เรือนจำหญิง ยินดีด้วยนะ"
คนที่ยืนขวางหน้าฉันคือชีตง ศัตรูตัวฉกาจของฉันในมหา'ลัย ที่ไหนมีฉัน ที่นั่นต้องมีมันโผล่มาหาเรื่อง
ไอ้หมอนี่แค่ไอ้ขี้คุย อาศัยว่าบ้านรวยมีเส้นสายหนา ถึงได้วางท่าเบ่งใส่คนในมหา'ลัย
นอกจากเรื่องนี้ที่ฉันสู้มันไม่ได้ เรื่องอื่นๆ ฉันเหนือกว่ามันทุกด้าน นี่แหละที่ทำให้มันเกลียดฉันเข้าไส้
แต่ฉันที่เคยมุ่งมั่นมาตลอด ตอนนี้กลับตกอับ
ฉันแพ้แล้ว แพ้ให้กับความรัก
ยิ่งไปกว่านั้น ท้องฉันหิวจะแย่ ไม่มีแรงจะไปเถียงกับชีตงอีก
ฉันเอามือกุมท้องที่ร้องจ๊อกๆ เหลือบมองชีตงแวบหนึ่ง ไม่พูดอะไร ลากขาที่อ่อนแรงไปทางโรงอาหาร
แต่ชีตงดูเหมือนไม่คิดจะปล่อยโอกาสเยาะเย้ยฉันครั้งนี้ไป
"อย่าเพิ่งไปสิหลินหยาง นี่กำลังฝึกวิชาอะไรอยู่เหรอ เตรียมตัวไปเรือนจำหญิงแล้วเหรอ ระวังอย่าให้ไตเสื่อมจนไม่เข็นนะ เดี๋ยวจะเสร็จเขาจริงๆ ฮ่าๆๆ..."
ถ้าเป็นปกติ ถ้ามันกล้าลบหลู่ฉันแบบนี้ ฉันคงซัดมันไปแล้ว
แต่ตอนนี้ไม่ได้กินข้าวมาสามวัน เดินยังโซเซ จะมีแรงที่ไหนไปต่อยมัน
ไอ้หนู คราวนี้พี่ยอมอดทน
ฉันก้าวเท้าออกไปอีกครั้ง แต่ชีตงยังเดินตามข้างๆ ไม่ยอมไปไหน
"หลินหยาง คราวนี้เป็นอะไรไป ไม่พูดอะไรสักคำแล้วเดินหนี ได้ยินว่าเวยเตะแกทิ้งแล้ว... เพราะเธอใช่มั้ย แกถึงได้ไปทำงานที่เรือนจำหญิง"
"หุบปากซะ อยากโดนซัดรึไง"
ถ้าชีตงไม่พูดถึงเวย ฉันคงอดทนได้ ไอ้หมอนี่ชอบแทงใจดำคนอื่น น่าเกลียดชังเหลือเกิน
ฉันตะโกนใส่มันสุดเสียง แต่แค่ตะโกนมันไม่กลัวฉันหรอก
"หลินหยาง แกจะโวยวายอะไรนักหนา" ชีตงคว้าเสื้อฉันไว้ "ดูสภาพแกสิ ไปรับใช้ผู้หญิงในเรือนจำเหอะ..."
แม่ง!
ฉันรู้สึกว่าทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว
ฉันยกหมัดตรงใส่หน้าชีตง
มันหลบหมัดฉันได้อย่างง่ายดาย แล้วผลักฉันจนเซไปข้างหลัง
ตอนนี้ฉันไม่ได้กินข้าวกินน้ำมาสามวัน จะไปสู้มันได้ยังไง เมื่อก่อนทำอะไรฉันก็เหนือกว่ามันหมด แต่ตอนนี้ฉันรู้ว่า ถ้าสู้กันจริงๆ คนที่เสียเปรียบคือฉันแน่นอน
เผชิญหน้ากับชีตงที่เย่อหยิ่ง ฉันได้แต่เปลี่ยนความโกรธทั้งหมดให้เป็นพลังในการมีชีวิตอยู่
ฉันสาบานกับตัวเองในใจ ต่อให้ทำอะไรก็ตาม ถึงแม้จะไปอยู่เรือนจำหญิงก็ต้องทำให้ดี สักวันต้องประสบความสำเร็จ เหยียบไอ้พวกอย่างชีตงไว้ใต้ฝ่าเท้าตลอดไป