บทที่เจ็ด: เบลล์วิทยาเขตใหม่
เอาล่ะ ทุกคนต่างก็คาดเดากันไปต่างๆ นานาว่าเทพธิดาแห่งสงครามในวิดีโอนั้นเป็นใคร ในที่สุด เมื่อแคลร์ ลูกสมุนของโซฟี ถูกซักถาม เนื่องจากมีเธอปรากฏอยู่ในวิดีโอด้วย แคลร์จึงเปิดเผยว่าเป็นแอเรียลที่ทำร้ายพวกเธอเมื่อวันก่อน ตอนที่พวกเธอไปสั่งสอนบทเรียนแอเรียลแทนหัวหน้าของตน ผู้คนต่างตกตะลึงเมื่อพบว่าเด็กสาวที่ดูผอมบางร่างน้อยเช่นนี้สามารถจัดการกับกลุ่มเด็กสาวร่างกำยำที่เป็นอันธพาลประจำโรงเรียนมัธยมแอนเดอร์สันได้ด้วยตัวคนเดียว
เช้าวันรุ่งขึ้น เมื่อแอเรียลมาถึงโรงเรียน เธอพบว่านักเรียนทั่วทั้งโรงเรียนดูเหมือนกำลังรอใครบางคนอยู่ เมื่อผู้คนเห็นแอเรียล พวกเขาก็เริ่มถ่ายรูปเธอ อดใจไม่ไหว ก็เธอดูดีมากขนาดนั้นนี่นา แอเรียลสัมผัสได้ถึงความผิดปกติบางอย่างแต่ก็บอกไม่ถูกว่าเป็นอะไรกันแน่ เมื่อเป็นเช่นนั้น เธอจึงตัดสินใจที่จะไม่สอดรู้สอดเห็นหรือพยายามถามไถ่ว่าเกิดอะไรขึ้น แล้วเดินตรงไปยังห้องเรียนของตน ในนั้น เธอรู้สึกได้ว่าผู้คนกำลังจ้องมองมาที่เธอ แต่เมื่อเธอหันไปมอง เธอกลับเห็นทุกคนก้มหน้าก้มตาอยู่กับหนังสือ เธอส่ายหัวแล้วเดินไปยังที่นั่งของเธอ บางทีเธออาจจะคิดมากไปเองก็ได้ บนโต๊ะของเธอ เธอเห็นชานมหนึ่งถุงกับซาลาเปาสามลูก เมื่อเธอมองไปทางขวา ก็สบตากับเพื่อนร่วมโต๊ะ (มายา) ที่กำลังมองเธออย่างคาดหวัง เธอชิมชานม รสชาติถูกปากเธอพอดี หวานมันกลมกล่อม มายา เพื่อนร่วมโต๊ะของเธอ สังเกตเห็นว่าแอเรียลชอบของหวาน ดังนั้นนอกจากจะซื้อชานมมาให้แล้ว เธอยังตัดสินใจซื้ออมยิ้มรสสตรอว์เบอร์รีมาให้อีกห่อด้วย เพราะสังเกตเห็นว่าทุกครั้ง แอเรียลจะอมอมยิ้มรสสตรอว์เบอร์รี โดยเฉพาะเวลาที่เธออารมณ์ไม่ดี เมื่อได้รับการดูแลเอาใจใส่เช่นนี้จากเพื่อนร่วมโต๊ะ แอเรียลรู้สึกถึงความอบอุ่นเอ่อล้นในหัวใจเป็นครั้งที่สองในชีวิตของเธอ คนแรกที่ทำให้เธอรู้สึกเช่นนี้เสมอคือคุณย่าผู้ล่วงลับของเธอ ซึ่งเคยอาศัยอยู่กับเธอที่ชนบทก่อนจะเสียชีวิตด้วยอาการป่วย
“บอสครับ มีคนกำลังตรวจสอบประวัติคุณอยู่ เราจะทำยังไงดีครับ” แอเรียลกำลังจะเข้านอนพอดีเมื่อโทรศัพท์มือถือของเธอดังขึ้นพร้อมข้อความนี้จากริค หนึ่งในลูกน้องของเธอ
“ให้รายละเอียดตามปกติไป” แอเรียลตอบข้อความ แต่ ‘รายละเอียดตามปกติ’ ที่เธอหมายถึงนั้นคือประวัติปลอมที่เธอสร้างขึ้นเกี่ยวกับตัวเอง แอเรียลแต่งเรื่องราวเกี่ยวกับตัวเองขึ้นมายกเว้นเรื่องที่เธอเป็นลูกของตระกูลฮอฟสตัด เธอให้รายละเอียดเกี่ยวกับนิสัยที่ไม่ดีต่างๆ ของเธอสมัยอยู่ที่ชนบท ซึ่งทำให้ผู้คนมองเธอในแง่ลบ
ในทางกลับกัน ผู้ช่วยของเบลลามี่ คุณเลียม เคาะประตูห้องทำงานของเจ้านายเขา
“เข้ามา” เสียงหนึ่งสั่งมาจากข้างใน เลียมผลักประตูห้องทำงานเปิดออกแล้วเข้าไป
“ว่ามา!” เบลลามี่สั่งอีกครั้ง เนื่องจากเขายุ่งกับงานมาก และเขาไม่ชอบเสียเวลาเพราะเขาเป็นคนบ้างาน
“เรื่องที่คุณให้ผมไปตรวจสอบเรียบร้อยแล้วครับ ผมหมายถึงการตรวจสอบประวัติน่ะครับ” คุณเลียมอธิบายขณะวางซองเอกสารขนาดใหญ่ลงบนโต๊ะของมิสเตอร์เบลลามี่ เมื่อได้ยินดังนั้น เบลลามี่หยุดสิ่งที่กำลังทำอยู่เล็กน้อย แล้วก็ทำต่อไปราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น
“ออกไปได้แล้ว” เขาบอกผู้ช่วยของเขาขณะที่ยังคงพลิกดูแฟ้มเอกสารที่กำลังอ่านอยู่ เมื่อผู้ช่วยออกไปและปิดประตูห้องทำงานแล้ว เบลลามี่ก็คว้าซองเอกสารอย่างใจร้อนและเทสิ่งที่อยู่ข้างในทั้งหมดลงบนโต๊ะ เขาเริ่มค้นดูเอกสารเหล่านั้นอย่างสงสัยใคร่รู้
‘งั้นเธอก็มาจากตระกูลฮอฟสตัด แต่ทำไมถึงดูน่าสงสารขนาดนี้?’ มิสเตอร์เบลลามี่คิดในใจ คือ... ตั้งแต่วันที่เขาเห็นเธอต่อสู้กับเด็กผู้หญิงพวกนั้น เบลลามี่ก็รู้สึกว่าต้องปกป้องเธอ เธอดูผอมบาง อ่อนแอ และโดดเดี่ยวเหลือเกิน นั่นคือเหตุผลที่เขาสั่งให้ผู้ช่วยไปตรวจสอบประวัติของเธอ ตัวเบลลามี่เองก็ไม่เข้าใจว่าทำไมเขาถึงรู้สึกเช่นนั้น เขาเพียงแค่อยากจะซ่อนเธอให้พ้นจากสายตาของทุกคนและเก็บเธอไว้กับตัวเขาคนเดียว เขาไม่เข้าใจทั้งตัวเองและความคิดของตัวเองเลยแม้แต่น้อย
ขณะที่เบลลามี่ยังคงจมอยู่กับแฟ้มเอกสาร ไรอัน เพื่อนสมัยเด็กของเขา ก็พรวดพราดเข้ามาในห้องทำงานอย่างตื่นเต้นโดยไม่ได้เคาะประตู
“เฮ้ นายเห็นวิดีโอที่กำลังเป็นกระแสหรือยัง?” ไรอันถามอย่างมีลับลมคมในขณะยิ้ม
“วิดีโออะไร?” เบลลามี่ถามอย่างไม่ใส่ใจ
“โอ้ เพื่อนเอ๋ย! นี่ ดูสิ” ไรอันพูดพร้อมกับถอนหายใจ แล้วยื่นโทรศัพท์ให้เบลลามี่
“เป็นไงล่ะ? เธอสุดยอดไปเลยใช่ไหม?” ไรอันถามเบลลามี่ น้ำเสียงเต็มไปด้วยความชื่นชมบูชา เบลลามี่ยังคงจ้องมองวิดีโอนั้นอย่างตั้งใจ แน่นอน เขารู้ว่าเด็กผู้หญิงในวิดีโอคือใคร เขาแค่สงสัยว่าเจ้าโง่คนไหนเป็นคนถ่ายวิดีโอนี้
“เชี่ยเอ๊ย ฉันจะบอกให้นะ ฉันจะไปตามหาเธอแล้วขอเธอเป็นแฟนให้ได้ เพราะเธอคือเทพธิดาของฉันแล้ว! ฉัน...” ไรอันยังคงพล่ามไม่หยุดเมื่อเขารู้สึกได้ถึงสายตาเย็นเยียบที่จ้องมาทางตน เขาจึงรีบหุบปากทันที เบลลามี่เกลียดนักที่ดันมีคนอื่นมาหมายตาเธอไว้แล้ว
ในเว็บบอร์ดของโรงเรียน ก็เกิดการถกเถียงอย่างเผ็ดร้อนขึ้นทันทีว่าใครเหมาะสมที่จะเป็นดาวโรงเรียนระหว่างไอวี่กับแอเรียล ในรูปทั้งสองใบ รูปหนึ่งเป็นแอเรียลที่ยืนเอียงคอเล็กน้อย มือข้างหนึ่งล้วงกระเป๋า โครงหน้าด้านข้างของเธอดูมีเสน่ห์น่าหลงใหลจนผู้คนแทบไม่อาจละสายตาไปจากเธอได้ ในทางกลับกัน ไอวี่แต่งหน้าอย่างประณีตอ่อนหวาน ทำให้เธอดูราวกับนางฟ้า เธองดงามก็จริง แต่ความแตกต่างระหว่างเธอกับแอเรียลนั้นช่างกว้างและชัดเจนอย่างยิ่ง เนื่องจากการตัดสินขึ้นอยู่กับผลโหวต แอเรียลจึงได้รับคะแนนโหวตมากกว่าครึ่งหนึ่งของโรงเรียน ขณะที่ไอวี่ได้เพียงหนึ่งในสาม ดังนั้น แอเรียลจึงได้เป็นดาวโรงเรียนคนใหม่ แอเรียลซึ่งไม่ได้รับรู้ถึงสิ่งที่เกิดขึ้นเลยแม้แต่น้อย กำลังฟุบหลับอยู่บนโต๊ะอย่างสบายอารมณ์ด้วยความเบื่อหน่าย
ไอวี่กำลังยุ่งอยู่กับการทำการบ้านเมื่อรู้สึกได้ถึงสายตาแปลกๆ ที่จับจ้องมาที่เธอ เธอสับสน เพราะเท่าที่จำได้เธอก็ไม่ได้ทำอะไรผิด ทันใดนั้นเธอก็สังหรณ์ใจไม่ดีและรีบหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาดู เธอพบกับความคิดเห็นต่างๆ จากการถกเถียงที่กำลังดำเนินอยู่ว่าใครเหมาะสมที่จะเป็นดาวโรงเรียน ยิ่งเธออ่านความคิดเห็นมากเท่าไหร่ ใบหน้าของเธอก็ยิ่งมืดคล้ำลงเท่านั้น เธอกำหมัดแน่นจนเลือดซิบ แต่เธอก็ไม่สนใจไยดี
“แอเรียล...” เธอพึมพำชื่อนั้นออกมา น้ำเสียงเต็มไปด้วยความเกลียดชังอย่างสุดซึ้ง