Read with BonusRead with Bonus

4__จุดเริ่มต้นของศัตรู

คฤหาสน์สโตนกำลังโกลาหล และด้วยทุกสายตาที่จับจ้องมายังเธอ เอรินรู้ได้ว่าตนเองคือต้นเหตุ

เธอนั่งอยู่บนเก้าอี้ อ้อมแขนของแม่โอบกอดเธอไว้แน่นขณะที่พวกสโตนกำลังโต้เถียงกันอยู่ต่อหน้าพวกเขา

สเตฟานีเท้าสะเอวก้าวเข้าไประหว่างไมเคิลกับพ่อของเธอ มั่นใจว่าอีกไม่นานไมเคิลคงโดนพ่อต่อยกระเด็นทะลุหน้าต่างเป็นแน่

เมื่อใบหน้าสงบนิ่งของลูกสาวปรากฏในสายตา จูเลียส สโตน ก็พ่นลมหายใจอย่างหงุดหงิดแล้วมองลงมาที่เธอ

สเตฟานีเลิกคิ้ว “พ่อคะ—”

“ไม่ สเตฟานี!” ท่านประธานพูดตัดบทพลางยกมือขึ้น “ฉันตัดสินใจแล้ว พวกแกไม่มีใครเปลี่ยนใจฉันได้ทั้งนั้น!”

ไมเคิลแยกเขี้ยว “พ่อแก่จนเลอะเลือนไปแล้วหรือไง!”

สเตฟานีหันไปทางเขา “หุบปากนะ ไมเคิล! อย่ามาพูดกับพ่อแบบนี้นะ!”

ไมเคิลกำหมัดแน่น กดมันเข้ากับดวงตาที่แดงก่ำขณะคำรามออกมาอย่างหัวเสีย “นี่ล้อกันเล่นใช่ไหม? แกจะบ้าเหรอ สเตฟ?! พ่อกำลังจะยกเงินทั้งหมดของเราให้เด็กขอทานนั่น!”

“ใช่!” ท่านประธานกล่าว เขาชี้ไปที่เอริน “ตลอดสามปีที่เด็กคนนี้อยู่ที่นี่ เธอแสดงให้เห็นศักยภาพและความฉลาดมากกว่าที่แกเคยมีมาตลอดเสียอีก ไมเคิล! ที่สำคัญกว่านั้นคือเธอฉลาดเกินวัย ใจดี และ จริงใจ ส่วนเด็ก คนนี้!” เขาชี้ไปที่เบรเดน “ก็โหดร้ายและเจ้าเล่ห์เหมือนแกนั่นแหละ ฉันยอมตายดีกว่าทิ้งอาณาจักรของฉันไว้ในมือคนแบบนั้น ฉันรักเบรเดน! ฉันรักเขามาก... และเพราะอย่างนั้น ฉันถึงพยายามช่วยไม่ให้เขาโตไปเป็นเหมือนแก!”

“พ่อคะ พ่อแน่ใจนะคะ? นี่มันอาณาจักรของพ่อนะคะที่เรากำลังพูดถึง” สเตฟานีถามอย่างเป็นกังวล

จูเลียสพยักหน้า มองไปที่เอรินซึ่งจ้องมองพวกเขาด้วยดวงตาเบิกกว้างเต็มไปด้วยความสับสนก่อน จากนั้นจึงมองไปยังเบรเดนที่ดวงตาเต็มไปด้วยความเกลียดชังและจับจ้องไปยังใบหน้าที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ของเอริน

“ฉันแน่ใจ” จูเลียสกล่าว เขามองกลับไปยังลูกชาย “พรุ่งนี้ ทนายความของฉันจะร่างพินัยกรรมฉบับใหม่ ระบุให้เอริน มัวร์ เป็นทายาทผู้รับสืบทอดอาณาจักรทั้งหมดของฉัน ไมเคิล…”

ไมเคิลเงยหน้าขึ้นมองพ่อด้วยสายตาอันเดือดดาล

“ถ้ามีอะไรก็ตาม” ท่านประธานกล่าวต่อ “…ฉันหมายถึง อะไรก็ตาม เกิดขึ้นกับเด็กผู้หญิงคนนี้ ทรัพย์สมบัติทั้งหมดของฉันจะตกเป็นขององค์กรการกุศลทันที เข้าใจไหม?”

“พ่อล้อผมเล่นใช่ไหม!” ไมเคิลสบถ

“โอ้ ฉันไม่ได้ล้อเล่น” จูเลียสกล่าวพร้อมรอยยิ้ม “ฉันรู้จักแกดีกว่าที่แกรู้จักตัวเองเสียอีก ลูกชาย ทำร้ายเธอสิ แล้วทุกอย่างจะตกเป็นของมูลนิธิเพื่อเด็ก แต่ถ้าพยายามทำร้ายฉัน ทุกอย่างในพินัยกรรมของฉันจะยังคงเดิม และเอรินจะได้มันไปทั้งหมด”

สเตฟานีขมวดคิ้ว “โธ่ พ่อคะ ไมเคิลไม่ทำอย่างนั้นหรอกค่ะ”

“เห็นได้ชัดว่าลูกไม่รู้จักพี่ชายของลูกดีพอ” ท่านประธานกล่าวกับสเตฟานี “เขาทำได้ทุกอย่างที่เขาสามารถหาเหตุผลเข้าข้างตัวเองได้ในหัวสมองเพี้ยนๆ ของเขา ทางเลือกเดียวของแก ไมเคิล คือต้องทำให้แน่ใจว่าเบรเดนจะเติบโตขึ้นเป็นทายาทที่สมบูรณ์แบบ เมื่อนั้นเท่านั้น ฉันถึงจะคืนตำแหน่งทายาทให้เขา”

จูเลียส สโตน ไม่สนใจคำสบถของลูกชาย เขาเตะเศษแจกันที่แตกกระจายแหลมคมชิ้นหนึ่งให้พ้นทางแล้วสาวเท้าไปยังบันได

แม่ของเอรินรีบร้อนตามไปอย่างร้อนรนและคว้าแขนเสื้อของเขาไว้ หยุดท่านประธานไม่ให้ออกไป

“ท่านประธานคะ! ได้โปรดทบทวนใหม่ด้วยเถอะค่ะ!” อลิเซียอ้อนวอน มองเจ้านายของเธอด้วยดวงตาคลอหน่วยด้วยน้ำตา เธอไม่รู้ว่าอะไรดลใจให้ท่านประธานคิดเช่นนั้น แต่เธอไม่มีวันยอมให้ท่านทำให้เอรินของเธอต้องตกอยู่ในสถานการณ์อันตรายเช่นนี้เด็ดขาด พวกคนรวยมีเล่ห์เหลี่ยมแพรวพราว ใครจะรู้ว่าพวกเขาจะวางแผนชั่วร้ายอะไรเพื่อทำร้ายเอรินบ้าง อลิเซียไม่อาจเสี่ยงได้ ท่านประธานคงต้องหาคนอื่นมาใช้ดัดนิสัยหลานชายของท่านแล้ว “ได้โปรดเถอะค่ะ เอรินของฉันยังเด็กนัก และเธอก็เป็นทุกสิ่งทุกอย่างที่ฉันมี ได้โปรดทบทวนใหม่ด้วยเถอะค่ะ”

จูเลียสเม้มปากแล้วค่อยๆ แกะมือของอลิเซียออกจากชุดสูทของเขา “ขอโทษด้วย คุณมัวร์ แต่ที่ผมพูดไปถือเป็นคำขาด!”

เขาหันหลังเดินจากไป ทิ้งให้แม่ของเอรินหันไปหาสเตฟานีด้วยความตื่นตระหนก

“คุณสเตฟานีคะ ได้โปรดคุยกับคุณพ่อของคุณเถอะค่ะ!” อลิเซียอ้อนวอนด้วยดวงตาเบิกกว้าง เธอแทบจะไม่กล้ามองหน้าไมเคิล ดวงตาที่จ้องเขม็งของเขาน่ากลัวขณะที่มันประเมินเธอกับลูกสาวอย่างเดือดดาล

“ใจเย็นๆ ก่อนนะคะ คุณมัวร์” สเตฟานีกล่าวพลางตบไหล่อลิเซียเบาๆ แล้วลูบหลังเธอ “หายใจเข้าลึกๆ นะคะ ไม่เป็นไรค่ะ ฉันรู้ว่าคุณกำลังคิดอะไรอยู่ จะไม่มีอะไรเกิดขึ้นกับเอรินเด็ดขาด ฉันสัญญา"

ไหล่เล็กๆ ของเอรินเกร็งขณะมองแม่ของเธออ้อนวอนสเตฟานี หัวใจของเธอเต็มไปด้วยความหวาดกลัว ตึงเครียดจากบรรยากาศอันมืดมนในบ้าน เกิดอะไรขึ้นกันนะ แม่ของเธอดูหวาดกลัวและเศร้าโศกเหลือเกิน

สายตาของเอรินมองไปยังเบรเดนที่นั่งนิ่งราวกับรูปปั้นหินอ่อน และดวงตาของเธอก็เบิกกว้างขึ้น

เขากำลังจ้องมองเธอ ดวงตาของเขาแทบไม่กะพริบขณะจ้องเขม็ง เอรินหวาดกลัวกับความโกรธที่ฉายชัดในดวงตาสีฟ้าของเขา ความเกลียดชังที่เบรเดนจ้องมองมายังเธอนั้นมืดมนกว่าครั้งไหนๆ ที่เขาเคยแสดงออกมาให้เธอเห็น และมันทำให้เอรินหวาดผวาอย่างที่สุด

เธอส่ายหัวช้าๆ ไม่ว่านี่จะเป็นเรื่องอะไรก็ตาม หรือพวกเขากำลังทะเลาะกันเรื่องอะไร เอรินไม่ต้องการมัน เบรเดนน่ากลัว และสายตาที่เขามองเธอในตอนนี้เป็นสิ่งที่น่ากลัวที่สุดเท่าที่เอรินเคยเห็นมา ไม่ว่าท่านประธานต้องการจะมอบอะไรให้เอริน สิ่งนั้นเป็นของเบรเดน

เอรินลุกขึ้นยืน เธอไม่ต้องการมัน

เธอหันไปยังบันไดและวิ่งตรงไปยังห้องทำงานของท่านประธานทันที เธอจะไปคุยกับท่าน เธอจะทำให้ท่านเข้าใจ ถ้าท่านต้องการไล่เธอกับแม่ออกไปก็ไม่เป็นไร! พวกเธอก็แค่ต้องไปหาที่อยู่ใหม่เท่านั้นเอง

จูเลียส สโตน หันหลังจากหน้าต่างพร้อมถอนหายใจหนักหน่วง แล้วหย่อนตัวลงนั่งบนเก้าอี้ เหนื่อยล้ากว่าครั้งไหนๆ ในชีวิตห้าสิบแปดปีของเขา

บนพื้นโต๊ะมันวาวมีรูปถ่ายของคลาร่า ภรรยาผู้ล่วงลับอันเป็นที่รักของเขาวางอยู่ข้างรูปถ่ายของลูกๆ จูเลียสถอนหายใจอีกครั้งเมื่อมองมัน “คลาร่าที่รักของผม” เขาพึมพำ จ้องมองรูปภรรยาผู้ล่วงลับ “ผมกำลังทำสิ่งที่ถูกต้องจริงๆ หรือเปล่า”

ทันใดนั้น ความเงียบสงบในห้องทำงานของเขาก็ถูกทำลายลงเมื่อประตูถูกผลักเปิดออกกว้าง เอรินยืนหอบหายใจอยู่ที่หน้าประตู มองมาที่เขา

จูเลียสตกตะลึง “หนูน้อย—”

“หนูไม่เอามันค่ะ!”

เขาชะงัก หรี่ตามอง “ว่าอะไรนะ?”

เอรินค่อยๆ เดินเข้ามาในห้องทำงานกว้างใหญ่ หัวเข่าสั่นเล็กน้อยแต่เธอก็ยังยืนหยัดมั่นคง “หนู… หนูไม่เอามันค่ะ ท่าน!”

“แล้ว ‘มัน’ ที่ว่านั่นคืออะไรล่ะ?”

“ของที่เป็นของเบรเดนค่ะ” เอรินตอบโดยไม่ลังเล “ท่านบอกว่าจะให้ของที่เป็นของเบรเดนกับหนู แล้วตอนนี้เขาก็ยิ่งเกลียดหนูมากขึ้นไปอีก! เขาจะใจร้ายกับหนูมากขึ้นด้วย! แล้วแม่ของหนูก็กลัวเรื่องนี้มาก! ได้โปรดเถอะค่ะ ท่าน หนูไม่เอามัน!”

จูเลียสพิจารณาเด็กหญิงอยู่ครู่หนึ่ง แล้วค่อยๆ ประสานนิ้วมือวางบนโต๊ะ “หนูน้อย เธอไม่เข้าใจหรือว่านี่จะมีความหมายยังไงกับตัวเธอและแม่ของเธอ?”

เอรินกลืนน้ำลาย นิ้วมือขยุ้มกระโปรงยาวของชุดเดรสเอาไว้ เธอไม่รู้เลยว่ามันมีความหมายยังไงกับเธอกับแม่ แต่เมื่อแม่ของเธอกลัวขนาดนั้น มันคงไม่ใช่เรื่องดีแน่ๆ

“จากนี้ไป” ท่านประธานกล่าว “…ฉันจะดูแลให้เธอได้เข้าเรียนโรงเรียนที่ดีที่สุด มันไม่เยี่ยมไปเลยเหรอ? เธอจะได้ไปโรงเรียนเดียวกับที่เบรเดนไป และได้สัมผัสชีวิตทายาทมหาเศรษฐีพันล้าน เธอไม่อยากได้ชีวิตแบบนั้นหรือ?”

เอรินตกใจมาก “หนู… หนูต้องไปโรงเรียนกับเบรเดนเหรอคะ?” ความคิดนั้นช่างน่ากลัว! เธอรีบวิ่งไปที่โต๊ะของท่านประธานแล้วเขย่งปลายเท้าเพื่อให้เขามองเห็นใบหน้าของเธอเหนือแฟ้มเอกสารที่วางซ้อนกันอยู่ “ได้โปรด อย่าส่งหนูไปที่นั่นเลยนะคะ! ได้โปรดเถอะค่ะ!”

จูเลียสถึงกับพูดไม่ออก “อะไรนะ? ทำไม—”

“เบรเดนเกลียดหนู! แล้วหนูก็มีเพื่อนชื่อแจ็คสันอยู่ที่โรงเรียน หนูทิ้งเขาไปไม่ได้! ได้โปรดเถอะค่ะ ท่าน อย่าทำอย่างนั้นเลยนะคะ”

จูเลียสเริ่มลนลานเมื่อเห็นน้ำตาของเด็กหญิง เธอไม่เข้าใจจริงๆ หรือว่านี่เป็นโอกาสที่ดีแค่ไหน? เขาโน้มตัวไปข้างหน้า ยกมือขึ้นทำนองปลอบโยน “เอาล่ะๆ หนูน้อย ฟังฉันนะ ความฉลาดอย่างเธอต้องได้รับการส่งเสริม! ตอนนี้ใจเย็นๆ แล้วลองคิดดู เบรเดนเป็นเด็กไม่ดีจริงๆ ใช่ไหมล่ะ? ถ้าเธอช่วยฉันทำให้เขาเป็นเหมือนเธอได้… ฉันสัญญา เธออยากได้อะไรก็ได้ทุกอย่างเลย!”

เอรินส่ายหน้า “ไม่ค่ะ แม่หนูกลัว!”

“แม่ของเธอไม่มีอะไรต้องกลัว” ท่านประธานรับรอง พลางประหลาดใจที่พบว่าตัวเองกำลังพยายามอย่างสิ้นหวังที่จะโน้มน้าวให้เด็กหญิงคนนี้ช่วยเขา เธอเป็นทางเลือกสุดท้ายของเขาจริงๆ เบรเดนไม่ชอบเธออย่างแท้จริง และเพราะเขาหยิ่งยโสเหมือนพ่อของเขา เขาน่าจะทำทุกอย่างที่ท่านประธานสั่งเพื่อให้แน่ใจว่าเอรินจะไม่ได้สิ่งที่ควรเป็นของเขาโดยชอบธรรม นั่นคือสิ่งที่จูเลียสต้องการ

“ฉันสัญญาว่าถ้าเธอช่วยฉันทำให้เบรเดนเป็นเหมือนเธอ… แม่ของเธอจะไม่ต้องกลัวแบบนั้นอีกเลย”

เอรินนิ่งไป และท่านประธานก็ค่อยๆ พยักหน้า เขาได้รับความสนใจจากเธอแล้ว “ถูกต้อง และไม่ใช่แค่นั้นนะ แต่ยัง… แม่ของเธอจะไม่ต้องเป็นสาวใช้อีกต่อไป ฉันจะให้บ้านสวยๆ หลังหนึ่งในคฤหาสน์นี้ให้เธออยู่ และเธอก็ไปอยู่กับแม่ได้ ทุกอย่างที่เธอต้องการ ฉันจะจัดหาให้ ขอเพียงแค่เธอช่วยฉัน”

เอรินยืนนิ่งสนิท จ้องมองท่านประธาน เขา… เขาพูดจริง ความคิดต่างๆ เริ่มพรั่งพรูเข้ามาในหัวของเอรินเร็วมากจนเธอแทบจะจดจ่อกับเรื่องใดเรื่องหนึ่งได้ไม่นานก่อนที่อีกเรื่องจะแวบเข้ามา

จริงๆ เหรอ? แม่ของเธอไม่ต้องเป็นสาวใช้อีกต่อไปแล้วเหรอ? งั้นเบรเดนกับพ่อของเขาก็จะไม่มีวันดูถูกหรือสั่งแม่เธออีกแล้วใช่ไหม? แล้วเธอ เอริน ก็จะได้ไปอยู่ที่อื่นกับแม่ ไม่ต้องอยู่ที่นี่กับเบรเดนเหรอ?

ท่านประธานจะทำอย่างนั้นจริงๆ เหรอ? เธอเงยหน้าขึ้นสบตาเขา และท่านประธานก็พยักหน้า ดวงตาเต็มไปด้วยความมั่นใจ

“เชื่อใจฉันเถอะ หนูน้อย” เขากล่าว

นิ้วมือของเอรินกำเข้าหากันจนเล็บจิกเข้าไปในฝ่ามือ “แล้ว…” เธอเริ่มพูด “หนูจะทำให้เขาเป็นเหมือนหนูได้ยังไงคะ? เราต่างกันมากเลย…”

จูเลียส สโตน เกือบจะถอนหายใจอย่างโล่งอกเมื่อความกังวลบางส่วนคลายลงจากใจ “ฉันสัญญาว่ามันจะง่ายสำหรับเธอ” เขาบอกเธอ “ทั้งหมดที่เธอต้องทำก็แค่เรียนรู้ ทำตัวดีๆ และเติบโตขึ้นมาอย่างดีพอที่จะเป็นทายาทของอาณาจักร นั่นจะทำให้เบรเดนทำตัวดีและเติบโตได้ดีเช่นกัน เธอจะได้ไปโรงเรียน มีเพื่อน มีชีวิตปกติ แต่ดีกว่านั้น”

เอรินจ้องมองเขา “แม่ของหนูไม่ต้องเป็นสาวใช้อีกแล้วเหรอคะ?”

จูเลียสพยักหน้า “ถูกต้อง”

ทันใดนั้น อลิเซียก็ปรากฏตัวขึ้นที่หน้าประตูอย่างร้อนรน ดวงตาที่กวาดมองของเธอจับจ้องไปที่เอรินแล้วเบิกกว้างขึ้น “เอริน!” เธอมองไปที่ท่านประธานขณะเดินเข้ามาแล้วจับมือเอรินไว้ “ขอประทานโทษค่ะ ท่าน!” เธอลังเลอยู่ครู่หนึ่ง “ท่านคะ… เกี่ยวกับการตัดสินใจของท่าน ดิฉันคงจะอนุญาตให้ท่าน—”

“หนูจะทำค่ะ แม่!” เอรินประกาศ

อลิเซียมองลงมาที่ลูกสาวด้วยความตกใจ “ไม่นะ ลูกรัก! ลูกยังไม่เข้าใจเลยด้วยซ้ำ—”

“หนูเข้าใจค่ะ” เอรินพูดอย่างหนักแน่น “หนูช่วยท่านประธานทำให้เบรเดนทำตัวเหมือนหนู แล้วแม่ก็จะไม่ต้องเป็นสาวใช้อีกต่อไป หนูจะทำค่ะ” เธอมองไปที่ท่านประธาน “หนูสัญญาค่ะ”

Previous ChapterNext Chapter