




บทที่หก
ลูคัส
ลูคัสใช้เวลาทั้งวันอยู่ในภาวะโกรธกรุ่นๆ ทุกคนที่ปฏิสัมพันธ์กับเขาสังเกตเห็นเรื่องนี้และมันทำให้ทุกคนระแวดระวังเขา
เขาน่าจะหนีไปได้เร็วกว่านี้ แต่เขาก็แอบหวังอยู่ครึ่งหนึ่งว่าถ้าเขาเมินเฉยนานพอ เขาจะกลับมาที่ห้องสวีทแล้วพบว่ามันว่างเปล่า และพบว่าเมทของเขายังคงหลบหนีอยู่และไม่ใช่... มนุษย์อย่างแน่นอน
‘นี่โชคชะตากำลังเล่นตลกร้ายกับเขารึเปล่า เพราะเขาไม่เห็นว่ามันจะตลกตรงไหน...’
แต่มันไม่ใช่เรื่องตลก เพราะทันทีที่เขาก้าวเข้ามาในห้องสวีท เฟทเมทของเขาก็รออยู่ และไม่ใช่แค่นั้น เขายังถูกดึงดูดเข้าหาเธออย่างไม่อาจต้านทานได้
มันเหมือนกับเกลียดอาหารชนิดหนึ่งเข้าไส้จนเหมือนจะแพ้มัน แต่กลับตื่นขึ้นมาพร้อมความอยากอาหารชนิดนั้นอย่างรุนแรง รู้สึกเหมือนตกนรกชัดๆ
ดังนั้นจึงมีสองอารมณ์ที่ขัดแย้งกันในใจของลูคัสขณะที่แคลร์ล้มลงบนเตียงเพราะเขา ความหวาดกลัวในดวงตาของเธอทุกครั้งที่มองมาที่เขานั้นทั้งทำให้คลั่งและพอใจในเวลาเดียวกัน มันทำให้เขาแทบบ้า
เขากระชากกรามเธออย่างแรง ในใจก็สังเกตว่าผิวเธอนุ่มเพียงใด “เธอรู้ไหมว่าเธอน่าผิดหวังสำหรับฉันแค่ไหน” เขาพูดอย่างเย็นชา
น้ำตาคลอหน่วยในดวงตาของแคลร์ ริมฝีปากล่างของเธอสั่นระริก “งั้นก็ปล่อยฉันไปสิคะ ป-โปรดเถอะ” เสียงของเธอสั่นเครือขณะพูด และลูคัสบอกไม่ได้ว่ามาจากน้ำตาหรือความกลัว
“แล้วปล่อยเธอให้เป็นอิสระจากความทรมานที่การมีอยู่ของเธอสร้างให้ฉันงั้นเหรอ” มือของเขาบีบใบหน้าเธอแน่นขึ้น นิ้วของเขารับรองได้ว่าจะทิ้งรอยไว้หลังจากนี้
แคลร์เผลอส่งเสียงครางเบาๆ ด้วยความอึดอัด ซึ่งเปลี่ยนเป็นเสียงกรีดร้องสั้นๆ อย่างรวดเร็วเมื่อลูคัสกระชากเสื้อสเวตเตอร์ส่วนบนของเธอขาดอย่างกะทันหัน
ก่อนหน้านี้คอมันกว้างอยู่แล้ว แต่ตอนนี้มันแทบจะหลุดออกจากไหล่ เผยให้เห็นไหปลาร้าและเนินอกสู่สายตาของเขา
เธอมองเขาอย่างหวาดหวั่นและสังเกตเห็นว่าเขามีแววตาหิวกระหายแบบนั้นอีกแล้ว เธอรีบพยายามดึงเสื้อปิดตัวเอง ขนตาเปียกชุ่มด้วยน้ำตา
ลูคัสดูไม่แยแส แต่เขาก็ปล่อยเธอและถอยกลับไป จัดปกเสื้อสูทของเขา “เธอต้องอยู่ที่นี่จนกว่าฉันจะกลับมา ทำความสะอาดซะ แล้วเปลี่ยนเสื้อผ้าที่ใส่อยู่ออก” เขาสั่งอย่างเย็นชา หันหลังเดินจากไปโดยไม่มีคำพูดใดอีก
แคลร์
แคลร์มองตามเขาจากไป มือดึงเสื้อที่ขาดวิ่นขึ้นมา ‘นี่ฉันเข้ามาพัวพันกับเรื่องอะไรกันแน่เนี่ย?’
มันรู้สึกเหมือนการแต่งงานแบบคลุมถุงชนที่ลูคัสวางแผนไว้แต่เพียงผู้เดียว แล้วเขาก็โกรธเพราะเธอแตกต่างจากที่เขาหวัง เธอรู้ว่าเขาอยากเจอเฟทเมทของเขามากแค่ไหน แต่มันไม่ใช่ความผิดของเธอที่เธอไม่ได้เกิดมาเป็นมนุษย์หมาป่า
แคลร์ยังคงอยู่บนเตียงจนกระทั่งเสียงประตูปิดลงดังคลิก ถึงตอนนั้นเธอจึงค่อยๆ ลุกขึ้นนั่ง น้ำตาในดวงตาเอ่อล้นและไหลอาบแก้ม
เธอติดอยู่ที่นี่แล้ว ลูคัสเอาโทรศัพท์ของเธอไปด้วย ดังนั้นจึงไม่มีทางติดต่อใครนอกห้องที่เธออยู่ตอนนี้ได้เลย มันทำให้เธอรู้สึกไร้ทางสู้และต้องอยู่ภายใต้อำนาจของลูคัสอย่างสิ้นเชิง
เป็นครั้งแรกที่แคลร์รู้สึกเสียใจ เธอน่าจะยืนกรานที่จะอยู่ห่างจากรีสอร์ท แต่ความอยากรู้อยากเห็นที่จะได้พบลูคัสก็นำพาเธอมาที่นี่จนได้ ตอนนี้เมื่อเธอได้เห็นลูคัสแล้ว เธอก็เสียใจที่เคยอยากเจอเขา
สิ่งที่ไม่อยากจะเชื่อยิ่งกว่าเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นไปแล้วก็คือความจริงที่ว่า แม้เขาไม่ได้ทำอะไรเลยนอกจากแสดงความผิดหวังในการมีตัวตนอยู่ของเธอ แต่เธอก็ยังคงต้องการให้เขาจูบเธออยู่ดี
‘หรือนี่จะเป็นผลจากพันธะคู่ลิขิตกันนะ’
เพราะแรงดึงดูดที่อธิบายไม่ได้ที่เธอมีต่อชายผู้ที่ควรจะเป็นรักแท้ของเธอ แต่กลับปฏิบัติต่อเธอราวกับว่าเธอต่ำต้อยกว่ามนุษย์นั้น มันไม่มีคำอธิบายอื่นใดอีกแล้ว
เธอยังรู้สึกดีใจที่เขาไม่ได้ส่งตัวเธอไปที่อื่น... แคลร์ผุดลุกขึ้นยืนทันที บางทีเธออาจจะกำลังเริ่มเสียสติไปแล้วเหมือนกัน เหมือนกับเขานั่นแหละ เธอต้องหาทางออกไปจากที่นี่ให้ได้
เธอไม่ต้องการอะไรแบบนี้เลย เธอไม่ต้องการแต่งงานกับอัลฟ่าคิงชาวอเมริกัน เธออยากกลับบ้านและใช้วันหยุดพักผ่อนอย่างสงบสุข เธอจะกลับไปเรียนต่อมหาวิทยาลัยให้จบ จากนั้นก็ลงหลักปักฐานกับผู้ชายมนุษย์ธรรมดาแสนดีสักคนในเมืองเล็กๆ อย่างล็อกวูด
แคลร์เดินไปที่หน้าต่างบานหนึ่ง และหัวใจของเธอก็หล่นวูบไปอยู่ที่ตาตุ่ม ไม่มีทางเลยที่เธอจะไม่กระดูกหักสักสองสามท่อนถ้ากระโดดลงไปจากความสูงขนาดนี้
เธอถอยกลับมาแล้วมองสำรวจไปที่ประตู พลางสงสัยว่าจะมีทางไหนที่เธอจะทำให้ยามทั้งหมดหน้าประตูออกไปพร้อมกันได้ อย่างน้อยก็ให้นานพอที่เธอจะหลบหนีไปได้
แต่เธอทำแบบนั้นไม่ได้ในขณะที่ยังใส่เสื้อสเวตเตอร์ขาดๆ ตัวนี้อยู่ พวกเขาจะจำเธอได้ทันที
ดังนั้น แม้ว่ามันจะเป็นสิ่งสุดท้ายที่เธออยากจะทำ เธอก็ถอดเสื้อผ้าและไปอาบน้ำ
ห้องน้ำตกแต่งอย่างหรูหราฟุ่มเฟือย และแคลร์รู้สึกเหมือนกับว่าเธอได้ไปเข้าสปามาตอนที่ออกมา
น้ำอุ่นช่วยให้เธอสงบลง เพื่อที่เธอจะได้คิดอย่างมีเหตุผล แผนคือสวมเสื้อคลุมอาบน้ำของโรงแรม สั่งให้ยามที่คุมเธออยู่ไปทำงานจิปาถะหลายๆ อย่าง แล้วหลบหนีไปตอนที่พวกเขาเผลอ
เธอเลือกที่จะอาบน้ำและเปลี่ยนเสื้อผ้าเพื่อลดการระแวดระวังของพวกเขา พวกเขาคงเดาไม่ถูกว่าเธอจะพยายามหนี
เสื้อคลุมผ้าไหมที่โรงแรมจัดให้สั้นอย่างน่าประหลาด มันยาวระต้นขาของแคลร์เพียงนิดเดียว แต่มันก็คงต้องใช้ไปก่อน เธอสิ้นหวังมากจนไม่ได้คิดว่าเธอจะทำอะไรต่อหลังจากหนีออกจากห้องได้สำเร็จ เธอแค่อยากจะออกไปเท่านั้น
เธอจะหาใครสักคนแล้วขอโทรศัพท์ จากนั้นก็จะเล่าเรื่องทั้งหมดให้พ่อแม่ฟัง พวกท่านรักเธอ พวกท่านต้องทำทุกอย่างสุดกำลังเพื่อช่วยเธอแน่นอน
เมื่อวางแผนเรียบร้อยแล้ว แคลร์ก็ลงมือทำตามแผน เธอเดินอย่างกล้าหาญไปที่ประตูแล้วลองเปิดดู โชคดีที่มันไม่ได้ล็อก แต่มันก็ทำให้ยามที่อยู่อีกฝั่งตกใจไม่น้อย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพวกเขามองมาที่เธอและเห็นว่าเธอสวมใส่อะไรอยู่
“สวัสดีค่ะ” เธอยิ้มด้วยความมั่นใจที่เธอไม่ได้รู้สึกเลย “ฉันหิว คุณช่วยหาอะไรให้ฉันทานหน่อยได้ไหมคะ” แคลร์เงยหน้ามองยามที่อยู่ใกล้เธอที่สุด
ผมของเธอเปียกหมาดๆ เธอจึงรวบมันขึ้นหลวมๆ ปล่อยปอยผมลงมาปรกหน้าและลำคอ
ยามคนนั้นตื่นตระหนกทันที มองไปที่เพื่อนยามของเขาและพยายามสื่อสารกันทางสายตา ดูเหมือนว่าพวกเขาจะตกลงกันได้ เพราะเขาก้มหัวคำนับแล้วเดินจากไป
‘เยี่ยมเลย จัดการไปได้หนึ่ง เหลืออีกหนึ่ง’