




บทที่สอง
ลูคัส
ลูคัสเกลียดการเดินทางครั้งนี้เพียงเพราะล็อกวูดเป็นเมืองที่ยังมีมนุษย์อาศัยอยู่จำนวนมาก งานเปิดรีสอร์ตที่เขาต้องไปเข้าร่วมนั้นเป็นของราชวงศ์มนุษย์หมาป่าแห่งอเมริกา โดยเฉพาะอย่างยิ่ง มันเป็นของเขาเอง เขาจึงหนีไม่ได้
ราชวงศ์มนุษย์หมาป่าแห่งอเมริกา เหอะ! เรื่องตลกบัดซบ
ว่ากันว่าเขาคือราชาอัลฟ่าแห่งอเมริกา แต่กลับไม่ได้รับแม้แต่ประเทศเดียวให้อยู่ใต้ปกครอง มันน่าสมเพช และทั้งหมดเป็นเพราะพวกมนุษย์น่ารังเกียจ
ทั่วทั้งอเมริกาเหนือและใต้ เขาได้รับเพียงเมืองเล็กจ้อยกับเมืองหยิบมือเป็นอาณาเขต แต่ถึงกระนั้น พวกมนุษย์ที่ผุดขึ้นทุกหนแห่งราวกับวัชพืช ก็ไม่ยอมปล่อยให้พวกเขามีพื้นที่เล็กๆ เป็นของตัวเอง
ขณะนี้ลูคัสนั่งอยู่บนเบาะหลังของรถที่กำลังพาเขาไปยังรีสอร์ต กระจกติดฟิล์มกรองแสงเพื่อปกป้องความเป็นส่วนตัวของเขา เขาเลือกที่จะไม่ใช้คณะผู้ติดตามซึ่งเป็นธรรมเนียมปฏิบัติของราชาอัลฟ่าด้วยเหตุผลเดียวกันนี้
รีสอร์ต ‘มูนไลท์’ ถือเป็นเรื่องใหญ่ เพราะเป็นหนึ่งในรีสอร์ตแห่งแรกๆ ประเภทนี้ มันเป็นรีสอร์ตที่ให้บริการเฉพาะมนุษย์หมาป่าเท่านั้น และหากลูคัสไม่ต้องเสี่ยงกับการเจอหน้ามนุษย์ขณะอยู่ในล็อกวูด เขาคงจะตั้งตารอมันอยู่บ้าง
มูนไลท์ตั้งอยู่ที่ขอบเมืองล็อกวูด ซ่อนตัวอยู่ในหมู่แมกไม้เขียวชอุ่มตลอดปีอันเป็นความงามและความภาคภูมิใจของเมือง นอกจากนี้ยังมีทะเลสาบตามธรรมชาติในป่า จึงเป็นจุดที่เหมาะอย่างยิ่งตามธรรมชาติสำหรับสร้างรีสอร์ต
งานเลี้ยงจะดำเนินไปจนดึกดื่น ลูคัสจึงได้เข้าพักในห้องมาสเตอร์สวีทห้องหนึ่งสำหรับคืนนี้แล้ว
ใบหน้าหล่อเหลาของลูคัสฉายแววเหี้ยมเกรียม ดวงตาสีฟ้าของเขาเย็นชาขณะมองออกไปนอกหน้าต่าง เขาจะพยายามผลักดันร่างกฎหมายให้ผ่านต่อไป เพื่อห้ามไม่ให้มนุษย์อาศัยอยู่ในเขตที่กำหนดไว้สำหรับมนุษย์หมาป่า พวกเขาก็ถูกกระทำเช่นเดียวกัน เขาจึงไม่เข้าใจว่าทำไมถึงใช้กับมนุษย์บ้างไม่ได้
แคลร์
“ราเชล เดี๋ยวสิ!” แคลร์ร้องเรียก หอบหายใจ แต่เพื่อนของเธอยังคงดึงเธอต่อไป “ฉันอยากดูเมืองนะ ไม่ใช่ป่า!” เธอบ่นไม่หยุดขณะที่ราเชลจับเธอไว้แน่น ลากเธอไปทางป่า
เธอโล่งใจที่ตัดสินใจทิ้งจักรยานไว้ที่บ้านราเชล เพราะด้วยความที่ราเชลดึงเธอมาอย่างกะทันหัน เธอคงต้องจำใจทิ้งจักรยานไว้ริมถนน
พวกเธอกำลังเดินไปตามถนน จู่ๆ ราเชลก็หยุด แล้วกรีดร้องเสียงแหลมออกมาโดยไม่มีปี่มีขลุ่ย แล้วเริ่มลากเธอไปทางป่าทันที
“เราไปเดินป่าวันหลังก็ได้นี่ ราเชล!” แคลร์ดึงตัวกลับแรงขึ้น เธอเอือมระอากับพฤติกรรมแปลกๆ ของราเชลเต็มทีแล้ว
ถ้าเพื่อนเก่าของเธออยากไปป่า นั่นก็เรื่องของเธอ แคลร์จะกลับเข้าเมืองคนเดียว ถ้าจำเป็น เธอก็จะเที่ยวชมเมืองเอง
“อย่างน้อยก็บอกหน่อยสิว่าจะลากฉันไปไหน” เธอตำหนิ เห็นได้ชัดว่าอารมณ์เสีย
การที่ได้เห็นแคลร์ผู้น่ารักอารมณ์เสียขนาดนี้เป็นเรื่องน่าประหลาดใจอย่างยิ่งจนราเชลได้สติกลับคืนมา “ฉันขอโทษจริงๆ แคลร์” ราเชลขอโทษทันที “ฉันเพิ่งนึกได้ว่าราชาอัลฟ่าจะเสด็จมาเมืองวันนี้ แล้วฉันต้องแอบเข้าไปดูพระองค์ให้ได้”
แคลร์กลอกตาอย่างล้อเลียน “เพราะเธอเชื่อว่าตัวเองจะได้เป็นคู่ชะตาของพระองค์ แล้วพระองค์จะทรงพาเธอไปยังคฤหาสน์ในเมือง” เธอพูดซ้ำสิ่งที่ได้ยินราเชลพูดมานับครั้งไม่ถ้วน
เธอไม่เข้าใจว่าราเชลเชื่อเรื่องแบบนั้นได้อย่างไร ลึกๆ แล้วเธอเป็นคนโรแมนติกสิ้นหวัง แต่ก็ไม่อาจทำใจเชื่อเรื่องคู่ชะตาได้ เธอตัดสินใจยอมรับเรื่องนี้ว่าเป็นหนึ่งในลักษณะเฉพาะตัวของพวกมนุษย์หมาป่าไปนานแล้ว
“แน่นอนสิ มนุษย์หมาป่าหญิงคนอื่นๆ ก็ต้องทำเหมือนกัน” ราเชลพูดด้วยสีหน้าจริงจังมาก ดวงตาสีน้ำตาลโตของเธอเบิกกว้างด้วยความตื่นเต้น “คิดซะว่าเป็นเหมือนเทพนิยายซินเดอเรลล่าของพวกมนุษย์ไง พวกเราทุกคนเชื่อว่าตัวเองจะเป็นคนที่โชคดีได้สวมรองเท้าแก้ว”
แคลร์เถียงเรื่องนี้ไม่ได้ โดยเฉพาะเมื่อมีการยกตัวอย่างซินเดอเรลล่า “ราชาอัลฟ่าจะเสด็จมาที่ล็อกวูดเหรอ แล้วฉันมาอยู่ที่นี่ได้เหรอ ในเมื่อฉันเป็นมนุษย์”
ราเชลพ่นลมอย่างดูแคลน “เธอเป็นคนล็อกวูดนะ อยู่แถวนี้ก็ไม่เห็นเป็นไรเลย”
แคลร์อดไม่ได้ที่จะยอมรับว่าเธอก็อยากรู้อยากเห็นเหมือนกัน ในโลกมนุษย์ไม่ค่อยมีกษัตริย์เหลืออยู่แล้ว มีแต่ประธานาธิบดีกับผู้ว่าการเข้ามาแทนที่
“แล้วเราจะเจอพระองค์ได้ที่ไหนล่ะ” เธอถามอย่างสงสัยใคร่รู้ พวกเธออยู่ห่างจากทางเข้าป่าแค่หนึ่งช่วงถนน นั่นคือระยะทางที่ราเชลลากเธอมา
“มีรีสอร์ตกำลังจะเปิดน่ะ ถ้าเรารีบ เราอาจจะทันเห็นพระองค์ตอนเสด็จเข้าไปพอดี” ราเชลอธิบายด้วยความตื่นเต้นที่แทบเก็บไม่อยู่ หางม้าสีน้ำตาลเข้มของเธอเด้งขึ้นลงขณะกระโดด
แคลร์ไม่ได้ตื่นเต้นขนาดนั้น แต่เธอก็จะไปกับราเชล เพียงเพราะเธอก็อยากเห็นราชาอัลฟ่าตัวเป็นๆ ด้วยตาตัวเองเหมือนกัน เธอเคยเห็นพระองค์ผ่านสื่อมาบ้างสองสามครั้ง และเธอก็พอเข้าใจว่าทำไมผู้หญิงทุกคนถึงอยากเป็นซินเดอเรลล่าของพระองค์
แต่เธอไม่ได้คิดฝันอะไรแบบนั้น เพราะเธอเป็นมนุษย์ ไม่มีทางที่ราชาแห่งมนุษย์หมาป่าจะเลือกเธอแทนที่จะเป็นเผ่าพันธุ์เดียวกัน และเธอก็ไม่ได้ติดใจอะไรกับเรื่องนั้น
แผนในอนาคตของเธอคือเรียนให้จบปริญญา ย้ายกลับไปอยู่กับพ่อแม่ และหาผู้ชายอ่อนหวานสักคนมาแต่งงานด้วย คนที่จะใจดีและอ่อนโยนกับเธอ ซึ่งราชาอัลฟ่าอยู่ห่างไกลจากจินตนาการนั้นมาก
“เธอรู้เหรอว่าอยู่ที่ไหน” แคลร์ถาม พลางปล่อยให้ราเชลจับมือดึงเธอไปอีกครั้ง เพื่อนของเธอเป็นคนกระตือรือร้นมากเสมอ
“แน่นอนสิ! ตามมาเลย!” ราเชลร้องอย่างร่าเริง พลางดึงแคลร์ตามหลังไป
แคลร์หัวเราะเบาๆ และส่ายหน้า ยอมให้ตัวเองถูกลากเข้าไปในป่า “อย่างกับว่าฉันมีทางเลือกงั้นแหละ”
เสียงธรรมชาติขับขานก้องป่า ต้นไม้และดอกไม้เบ่งบานในฤดูใบไม้ผลิ