




กินของหวานก่อนอาหารเย็น
เธอมองลงไปยังเสื้อคลุมลูกไม้สีดำโปร่งบางที่เธอสวมทับชุดเส้นสายสีแดงเลือดนก ชุดที่เผยผิวกายมากกว่าจะปกปิดอย่างไม่น่าเชื่อ สีแดงที่ตัดกับผิวทำให้หัวนมสีชมพูอ่อนของเธอยิ่งเด่นชัดตัดกับผิวกายสีแทนอ่อนๆ ชุดนั้นยกกระชับทรวงอก พันรอบลำตัวเป็นลายไขว้ ดึงสายตาผมไปยังทุกส่วนบนร่างเธอที่จะส่งผมลงนรก ในที่สุดสายตาผมก็ไล่ลงมาถึงตรงที่เส้นขนหยิกชื้นตรงหัวหน่าวของเธอเป็นประกายในแสงไฟประดิษฐ์ มือเธอเลื่อนลงตามลำตัวอย่างประหม่า
“พ-พนักงานที่ร้านบอกว่ามันเป็นรุ่นขายดีที่สุดค่ะ” เธอถอยหลังไปก้าวหนึ่ง “ฉ-ฉันเปลี่ยนชุดได้นะคะถ้าคุณไม่ชอบ”
ผมลุกขึ้นเดินเข้าไปหาเธอช้าๆ เธอกลืนน้ำลายอย่างประหม่าเมื่อผมหยุดตรงหน้า ผมจับมือเธอวางทับลงบนเป้ากางเกงผม ให้เธอสัมผัสได้ว่าผมแข็งขืนเพียงใดในตอนนั้น ตาเธอเบิกกว้างขณะเงยหน้าขึ้นมองผม
“ผมว่าคุณเจอชุดที่ผมอยากให้คุณใส่ปรนนิบัติมื้อค่ำให้ผมทุกคืนแล้วล่ะ” ผมบอกเธอเสียงแหบพร่า แทบจะหักห้ามใจตัวเองไม่ให้อุ้มเธอตรงไปที่เตียงไม่ไหว ยิ่งแย่ลงไปอีกเมื่อนิ้วเธอขยับเกร็งบนความแข็งแกร่งของผม “คุณทำอะไรให้เราทานมื้อค่ำ”
“สเต๊ก มันบด แล้วก็หน่อไม้ฝรั่งราดน้ำผึ้งค่ะ”
ผมอุ้มเธอขึ้น บีบก้นเธอแรงๆ ให้เธอบดเบียดกับส่วนที่แข็งขืนของผมขณะอุ้มเธอเข้าไปในห้องทานอาหาร บนโต๊ะมีจานอาหารสองใบเต็มๆ กับแจกันที่ใส่ดอกไม้โปรดของเธอเต็มแจกัน ดอกเดซี่
“เดี๋ยวก่อนค่ะ!” เธอร้อง พยายามดิ้นลง ทำเอาผมครางเมื่อร่างกายผมยิ่งแข็งขืนขึ้นอีก
ผมวางเธอลง เธอก็รีบวิ่งไปที่เครื่องเสียงเพื่อกดเล่น ดนตรีคลาสสิกดังขับขานไปทั่วห้องขณะที่เธอหมุนตัววิ่งเข้าไปในครัว เธอกลับมาในอีกไม่กี่อึดใจเพื่อวางเทียนสีม่วงลงในเชิงเทียนบนโต๊ะ เธอจุดมันก่อนจะรีบเดินผ่านผมไปปิดไฟ ผมจ้องมองเธอเมื่อเธอกลับมายืนตรงหน้าผม ยิ้มให้
“นี่มันอะไรกันทั้งหมดนี่”
สีหน้าเธอสลดลง “ฉัน... ฉันคิดว่าฉันควรจะช่วยให้คุณผ่อนคลายนี่คะ? คุณดูเครียดมาก แล้วฉันก็แค่อยากจะ-”
ผมหยุดคำพูดประหม่าของเธอด้วยจูบ เธออ่อนระทวยในอ้อมแขนผมทันทีขณะที่ลิ้นผมไล้เลียลิ้นเธอ ส่วนมือผมก็เลื่อนขึ้นกอบกุมทรวงอก เคล้นคลึงเบาๆ ในอุ้งมือ บ้าจริง สัมผัสเธอมันดีเหลือเกิน ผมถอนตัวออกห่าง ขยับความเป็นชายในกางเกง มือเธอปิดแก้มที่แดงก่ำ ยั่วยวนให้ผมอยากทำให้เธอหน้าแดงยิ่งกว่าเดิม ก่อนที่ผมจะได้ทำตามใจคิด เธอก็จับมือผมดึงไปยังโต๊ะอาหาร เธอผลักผมให้นั่งลงหน้าจานใบหนึ่ง ก่อนจะนั่งลงเก้าอี้ข้างๆ ผม ยิ้มให้
“หวังว่าคุณจะชอบนะคะ”
ผมตัดสเต๊ก ทึ่งกับความสุกระดับมีเดียมแรร์ ก่อนจะส่งเข้าปาก รสชาติกระเทียมไม้เมสกีตระเบิดในปากผม ทำเอาผมครางออกมาขณะหลับตาลง เธอหัวเราะคิกคัก
“นั่นหมายความว่าคุณพอใจใช่ไหมคะ”
“โอ้ แน่นอน” ผมพูดพลางยัดหน่อไม้ฝรั่งเข้าปาก
เธอยิ้มกว้างให้ผม “ดีจังค่ะ”
“ว่าแต่ แมดดี้-”
เธอกระโดดพรวดขึ้น “ฉันลืมเครื่องดื่มของคุณนี่คะ! เดี๋ยวมานะคะ”
ผมตักสเต๊กอีกคำเข้าปากขณะเธอหมุนตัว ผมพยายามกลืนทันทีแล้วก็เริ่มสำลักชิ้นเนื้อ ขณะมองบั้นท้ายกลมกลึงของเธอสั่นไหวตอนเดินออกจากห้องไป ชุดเส้นสายนั้นโอบอุ้มก้นเธอได้อย่างสมบูรณ์แบบ ทำเอาผมอยากให้ลิ้นตัวเองเป็นเส้นเชือกเส้นนั้นระหว่างแก้มก้นรูปแอปเปิ้ลอันงดงามของเธอ ตอนเธอกลับมา เธอถือแก้วไวน์กับไวน์แดงหนึ่งขวดมาด้วย เธอรินให้ผมแก้วหนึ่ง แล้วผมก็กระดกพรวดเดียวหมด ล้างคอสเต๊กลงไป เธอชูแก้วอีกใบขึ้น
“คุณจะว่าอะไรไหมคะถ้าฉันจะดื่มไวน์ด้วย”
ผมส่ายหน้า เธอรินให้ตัวเองแก้วหนึ่ง ก่อนจะจิบอย่างประหม่าขณะที่ผมจ้องมองเธอและกินต่อไปช้าๆ
“ว่าแต่ แมดดี้ สองปีที่ผ่านมานี้คุณทำอะไรอยู่”
“หลบซ่อนค่ะ”
ส้อมผมชะงักค้างขณะความโกรธพลุ่งพล่านในตัว “นอกจากนั้นล่ะ” ผมตวาด
เธอเขี่ยอาหารในจานไปมา “ทำทุกอย่างที่ทำได้ค่ะ จนกระทั่งแม่โผล่มา สร้างปัญหาที่ทำงานของฉัน เจ้านายก็จะไล่ฉันออก แล้วฉันก็ต้องคลานไปหาแม่ อ้อนวอนขอเงินประทังชีวิต” เธอรีบยกมือห้ามคำพูดที่ผมกำลังจะตอบโต้ “ฉันรู้ค่ะ ฉันน่าจะมาหาคุณได้ ฉันขอโทษที่ไม่ได้มา งานสุดท้ายของฉันเป็นงานที่ฉันชอบที่สุด ฉันกำลังฝึกงานเป็นเชฟที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง พวกเขาใจดีกับฉันมาก พวกเขาให้มื้อเย็นฉันทานทุกวัน แม้แต่วันที่ฉันไม่ได้ทำงาน เจ้าของร้าน คุณร็อบ ดูแลฉันเหมือนลูกสาวเลยค่ะ”
“แล้วเกิดอะไรขึ้น”
“แม่โผล่มากับผู้ชายคนนั้น แล้วพอฉันปฏิเสธที่จะเสิร์ฟอาหารให้เธอ เธอก็อาละวาดค่ะ”
“ทำไมคุณถึงปฏิเสธที่จะเสิร์ฟเธอล่ะ”
เธอก้มหน้าลง “เขาพยายามชวนฉันไปเข้าห้องน้ำกับเขาตอนที่แม่ออกไปคุยโทรศัพท์ข้างนอก ฉันปฏิเสธ เขาก็โกรธแล้วพยายามจะกักตัวฉันไว้ มันไม่น่าแปลกใจเลยสักนิดค่ะ”
“ทำไมล่ะ” ผมถาม ขณะวางแผนในใจแล้วว่าจะตามล่าไอ้เวรนั่น
เธอสบตาผมขณะตักมันบดเข้าปาก “เพราะผู้ชายทุกคนนอกใจค่ะ มันอยู่ในสันดานพวกเขา พวกเขาสามารถมีผู้หญิงที่สมบูรณ์แบบที่สุดได้ แต่ก็ยังคิดว่าหญ้าอีกฝั่งเขียวกว่าเสมอ”
“ไม่ใช่ผู้ชายทุกคนที่นอกใจ”
เธอพ่นลมหายใจ “บอกมาสักคนสิคะที่ไม่นอกใจ”
“ผมไง”
“คุณโกหก ถ้าคุณไม่นอกใจ เราคงไม่มีสัญญานี่กันหรอกค่ะ”
ผมวางส้อมลง “แมดดี้ ผมซื่อสัตย์กับแม่ของคุณมา 18 ปี 18 ปีที่ยาวนานและแสนสาหัส เธอจากไปเกือบ 2 ปีแล้ว ความสัมพันธ์ของเรามันจบไปแล้วก็ว่าได้”
“แล้วทำไมแม่ถึงยังเป็นส่วนหนึ่งของสัญญาของเราล่ะคะ” เธอถาม
เราคุยเรื่องนี้กันไปก่อนหน้านี้แล้ว และคำตอบที่ผมให้เธอไปดูเหมือนจะจริงน้อยลงกว่าเมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อนหน้านี้ ผมถอนหายใจ
“ผมไม่รู้ ตอนนั้นมันก็ดูเหมือนจะถูกแล้ว เธอก็ยังเป็นภรรยาของผม”
“งั้นก็หย่ากับเธอสิ”
ผมสบตาเธอ “นั่นคือสิ่งที่เธออยากให้ผมทำเหรอ การหย่ากับเธอจะทำให้เธอรู้สึกดีขึ้นกับสิ่งที่เรากำลังทำกันอยู่หรือไง”
เธอหลบสายตาผม “มันเป็นชีวิตของคุณ คุณอยากจะทำอะไรกับมันก็ได้”
ผมโน้มตัวข้ามโต๊ะไปจับคางเธอให้เงยหน้าขึ้นสบตา “เธออยากให้ผมหย่ากับแอมเบอร์ไหม แมดิสัน” ผมถามพลางใช้นิ้วโป้งลูบไล้ริมฝีปากล่างที่สั่นระริกของเธอ
มือของเธอเอื้อมขึ้นมาจับข้อมือผมไว้ “ฉันอยากจะเชื่อในความรัก ฉันอยากจะมอบกายมอบใจให้กับผู้ชายที่ฉันจะใช้ชีวิตที่เหลืออยู่ด้วย ฉันอยากมีครอบครัว ฉันอยากมีบ้านสีฟ้าอ่อนที่มีรั้วสูง 6 ฟุตเพื่อความเป็นส่วนตัว ฉันอยากมีผู้ชายที่รักฉันคนเดียวและคอยย้ำเตือนฉันทุกวันว่าทำไมเราถึงต้องมีรั้วสูงๆ นั่น ฉันอยากมีหมาเป็นฝูงให้ฉันวิ่งเล่นและรักพวกมันได้ ฉันอยากเป็นสัตวแพทย์” เธอสะบัดคางหนีจากมือผม “แต่นั่นคือความฝันที่ฉันต้องปล่อยมันไปแล้ว”
“ทำไมล่ะ”
“เพราะฉันโตแล้วไง คนอย่างฉันไม่มีวันชนะหรอก คนอย่างแม่ฉันต่างหากที่จะชนะ ทุกคนบอกว่าความดีงามมักจะชนะในตอนท้าย แต่พวกเขาประเมินพวกตัวร้ายต่ำไป ฉันไม่ใช่ซินเดอเรลล่าหรือสโนว์ไวท์ ฉันจะไม่เอานิ้วไปจิ้มเข็มปั่นด้ายอาบยาพิษแล้วหลับยาวไปตื่นขึ้นมาด้วยจุมพิตแรกแห่งรักแท้ ฉันจะไม่ได้รับการช่วยเหลือจากเจ้าชายรูปงามที่จะต้องการแค่ฉันคนเดียว ฉันก็แค่แมดิสัน มอร์แกน เรียนก็แทบไม่จบ ความสัมพันธ์กับแม่ก็ไม่มี แถมยังเซ็นสัญญาเรื่องเซ็กส์กับผู้ชายที่เป็นเหมือนพ่อของฉันมาตลอด ไม่รู้ว่าพ่อสังเกตไหม แต่นี่มันไม่ใช่จุดเริ่มต้นของเทพนิยายเลยนะ”
“ถ้างั้น เราก็มายกเลิกสัญญากัน ผมจะจ่ายค่าเรียนให้เธอแล้วก็ซื้อบ้านในฝันให้ เธอเอาเงินเก็บของเธอไปได้เลย”
“นั่นคือสิ่งที่พ่อต้องการเหรอ พ่ออยากให้ฉันไปใช่ไหม”
ผมถอนหายใจพลางดันเก้าอี้ถอยหลังเพื่อดึงเธอมานั่งบนตัก “ไม่เลย สาวน้อย ผมเพิ่งได้เธอกลับมานะ ผมอยากให้เธอมีความสุข ไม่ว่ามันจะหมายความว่ายังไงสำหรับเธอก็ตาม ถ้าเธออยากอยู่ที่นี่กับผม ก็อยู่ไป ถ้าเธออยากจะไป ก็ไป แค่รู้ไว้นะว่าถ้าเธออยู่ ผมก็จะดูแลเธอ ถึงแม้เธอจะยกเลิกสัญญาของเรา ผมก็จะยังช่วยให้เธอทำความฝันให้เป็นจริง ทุกอย่างที่เธอฝัน มันอยู่ในระยะที่เอื้อมถึงทั้งนั้น” ผมเชยคางเธอขึ้นมองหน้าผม “นี่คือชีวิตของเธอ การตัดสินใจของเธอ ผมแคไม่อยากเสียเธอไปอีกครั้ง”
เธอโอบแขนรอบคอผมพลางโน้มตัวเข้ามาหา “นี่คือการตัดสินใจของฉัน” เธอพึมพำชิดริมฝีปากผมก่อนจะจูบผม
ผมลูบมือขึ้นไปตามแผ่นหลังเพื่อประคองท้ายทอยเธอขณะที่เราจูบกันลึกซึ้งยิ่งขึ้น เธอขยับตัวบนตักบดเบียดเข้าหาผม ขณะที่เราจูบกันต่อ ผมค่อยๆ ดันเสื้อคลุมให้หลุดจากไหล่เธอ เธอผละออก หอบหายใจ ผมใช้จังหวะนั้นดึงศีรษะเธอให้เอนไปข้างหลัง เคลื่อนริมฝีปากไปตามลำคอเธอ
“โอ้ว” เธอคราง “ไปที่เตียงกันเถอะ”
“ทำไมล่ะ” ผมถามพลางจูบไล่ลงมาตามหน้าอก ใช้ลิ้นลากไล้ตามยอดอกของเธอ
“ห-หรือในครัวก็ได้” เธอคราง “อ-เอาฉันตอนฉันทำความสะอ—าด อ่าาา!” เธอร้องลั่นเมื่อผมปัดจานทั้งหมดตกจากโต๊ะแล้วจับเธอนอนหงายลงบนนั้น
ผมงอขาเธอก่อนจะดึงเธอมาที่ขอบโต๊ะ ผมดึงเชือกสีแดงไปด้านข้างเพื่อมองกลีบเนื้อนุ่มของเธออย่างไม่มีอะไรบดบังขณะที่ใช้นิ้วไล้ไปตามรอยพับก่อนจะใช้อีกมือแหวกกลีบเนื้อเธอออกจากกัน มองนิ้วของผมจมหายเข้าไปในช่องทางอุ่นและคับแน่นของเธอ ผมจ้องมองขณะที่นิ้วของผมหายเข้าไปในช่องทางของเธอซ้ำๆ ขณะที่เธอครางเบาๆ บิดเร่าอยู่บนโต๊ะตรงหน้าผม
“มีใครเคยสัมผัสเธอแบบนี้ไหม แมดดี้? เคยเห็นเธอในสภาพนี้ไหม?”
“ม-ไม่เคยค่ะ”
“ดีแล้ว”
ผมยกสะโพกเธอขึ้นเพื่อให้ผมสามารถดูดดึงปุ่มกระสันของเธอได้ขณะที่นิ้วของผมยังคงเคลื่อนไหวอยู่ข้างในตัวเธอ ผมงอนิ้วอยู่ข้างในตัวเธอ กดลงไปที่ผนังช่องทางรักด้านบน เสียงร้องด้วยความสุขสมของเธอยิ่งทำให้ผมตื่นเต้นมากขึ้น ผมกดลงบนหน้าท้องของเธอขณะที่เพิ่มนิ้วเข้าไปอีกนิ้ว เธอสะโพกกระตุกอย่างแรง กรีดร้องขณะที่ช่องทางรักของเธอตอดรัดนิ้วผมแน่น ผมใช้ฟันขบเม้มปุ่มกระสันของเธอเบาๆ ขณะที่ร่างกายเธอสั่นสะท้านอย่างรุนแรง ผมหัวเราะเบาๆ ขณะจูบไล่ขึ้นไปตามร่างกาย ปล่อยให้เธอได้ลิ้มรสตัวเองบนลิ้นของผมก่อนจะผละออกไปประพรมจูบไปทั่วใบหน้าส่วนที่เหลือของเธอ
“ไปนอนเถอะ แมดดี้ เดี๋ยวผมเก็บกวาดเอง”
เธอกัดริมฝีปาก “แน่ใจนะคะ”
ผมพยักหน้า “ผมจะไม่ขอให้เธอมาเก็บกวาดตามหลังผมหรอก ไปเถอะ”
เธอโดดลงจากโต๊ะ วิ่งกึ่งกระโดดออกไปจากห้องด้วยใบหน้าแดงก่ำ ผมเริ่มเก็บกวาดอาหารที่หกเรี่ยราด ขณะที่ผมกำลังเช็ดเศษอาหารออกจากพื้นไม้เนื้อแข็ง เธอก็เดินกลับเข้ามาในชุดกางเกงยีนส์และเสื้อฮู้ดสีดำพร้อมกระเป๋าใบเล็กสะพายไหล่ ผมมองเธออย่างพิจารณา
“จะไปไหนเหรอ”
เธอพยักหน้า “ฉันจะไปเปิดห้องที่โรงแรมคืนนี้ค่ะ”
“ทำไมล่ะ”
“เพราะห้องฉันไม่มีตัวล็อกน่ะค่ะ ฉันไม่ค่อยชอบนอนห้องที่ประตูล็อกไม่ได้”
ผมเลิกคิ้ว “ตั้งแต่เมื่อไหร่”
“สองสามปีแล้วค่ะ” เธอพึมพำ
ผมมองเธออยู่ครู่หนึ่งก่อนจะเดินไปจับข้อศอกเธอพาไปยังห้องของผม ผมชี้ไปที่กุญแจของผมบนโต๊ะข้างเตียง “คืนนี้เธอนอนในนี้ได้ พรุ่งนี้เราค่อยไปซื้อตัวล็อกให้เธอ โอเคไหม”
เธอขบเม้มริมฝีปากล่าง “แน่ใจนะคะ”
ผมเงยหน้าเธอขึ้นเพื่อจุ๊บปากเธออีกครั้ง “แน่ใจสิ ไปนอนพักผ่อนเถอะ แมดดี้ เจอกันตอนเช้า”
“ฝันดีค่ะ… ฉันไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจะเรียกคุณว่าอะไรดี…”
ผมหัวเราะอีกครั้งขณะดึงเธอเข้ามากอด “เธอจะเรียกผมว่าโจเซฟหรือโจอี้ก็ได้ ส่วนในห้องนอนก็เรียกว่าแด๊ดดี้”
เธอตีไหล่ผม อมยิ้มมุมปากนิดๆ “ตาบ้าลามก”