Read with BonusRead with Bonus

คำสารภาพรถ

ผมอดไม่ได้ที่จะไล่สายตามองเรือนร่างของเธอขณะที่เธอดึงกางเกงขาสั้นขึ้น เธอโตเป็นสาวเต็มตัวจริงๆ และแทบไม่เหลือเค้าเด็กน้อยที่ผมเห็นครั้งสุดท้ายเลย ผมยกนิ้วขึ้นจรดจมูก สูดกลิ่นกายของเธอเข้าลึกๆ ไอ้หนูของผมแข็งขืนในกางเกง พระเจ้า กลิ่นกายเธอยังหอมหวานเหมือนรสชาติของเธอไม่ผิดเพี้ยน นี่ยังไม่นับสัมผัสยามที่เธอบิดเร้าอยู่ใต้มือผมนะ ผมต้องใช้ความอดทนทั้งหมดที่มีเพื่อห้ามใจไม่ให้กระแทกเธอจากด้านหลังแล้วทำให้เธอเป็นของผมเสียเดี๋ยวนั้น

“เอ่อ... คุณพร้อมหรือยังคะ”

ผมยิ้มให้เธอ “พร้อมแล้ว มาเถอะ”

ผมเดินไปที่ประตู ปลดล็อก แล้วเปิดค้างไว้ให้เธอ เธอสูดหายใจลึกก่อนจะยืดตัวตรงแล้วเดินผ่านไป สะโพกที่ส่ายไปมาดึงดูดสายตาผมให้มองตามก้นของเธอ ให้ตายสิ! ผมรู้อยู่แล้วว่าเธอจะต้องนำปัญหามาให้แน่ๆ ความผิดพลาดเดียวของผมคือการคิดว่าผมต้องเตรียมปืนไว้สำหรับแฟนในอนาคตของเธอ ไม่เคยคิดเลยสักครั้งว่าตัวผมเองต่างหากคือผู้ชายในอนาคตคนนั้นที่ต้องถูกเตือนว่าอย่าทำร้ายเธอ ผมหยุดยืนข้างโต๊ะของเจน

“พรุ่งนี้เช้า คุณช่วยฝึกงานให้แมดิสันด้วยนะ เธอจะเป็นผู้ช่วยส่วนตัวคนใหม่ของผม”

ผมหันไปมองแมดิสันแล้วก็หัวเราะออกมาเมื่อเห็นใบหน้าแดงก่ำของเธอ เจนลุกขึ้นยืน ยิ้มกว้าง

“ดีใจจังเลยค่ะที่คุณจะมารับตำแหน่งต่อจากดิฉัน คุณมอร์แกน ดิฉันคิดอยู่เสมอเลยว่าสุดท้ายแล้วคุณต้องมาทำงานที่นี่แน่ๆ”

“ขะ-ขอบคุณค่ะ คุณเทย์เลอร์”

“ราตรีสวัสดิ์นะเจน”

“เช่นกันค่ะ คุณมอร์แกน คุณมอร์แกน”

ผมจับแขนแมดิสันเพื่อนำเธอออกไป เธอยืนตัวแข็งทื่อในลิฟต์ขณะที่เราลงไปข้างล่าง ส่วนผมก็เฝ้ามองเธอ พยายามอย่างสุดความสามารถที่จะไม่หัวเราะก๊ากออกมากับสีหน้าเหรอหราเหมือนกวางตื่นไฟของเธอ พอเธอพยายามจะเดินหนีผมไปนอกอาคาร มือผมก็ยื่นพรวดไปรั้งเธอไว้

“จะไปไหน”

“ไปที่รถฉันไงคะ” เธอถามเสียงเบา

“ไม่! เธอต้องไปกับผม” ผมบอกเธอ ลังเลที่จะปล่อยให้เธอคลาดสายตา

“แล้วรถฉันล่ะคะ”

“พรุ่งนี้ตอนกลางวันเราค่อยกลับมาเอากลับบ้าน”

“ก็ได้ค่ะ...”

เธอเดินตามผมไปที่รถ และทันทีที่เราเข้ามานั่งข้างในกันเรียบร้อย เธอก็หันมาหาผม เอนศีรษะพิงเบาะ

“ทำไมคุณไม่อายเลยที่เธอได้ยินเสียงฉันกรีดร้อง คุณไม่สะทกสะท้านเลยสักนิด”

ผมหัวเราะเบาๆ “รับรองได้เลยว่าเธอไม่ได้ยินหรอก”

“คุณแน่ใจได้ยังไงคะ”

“ห้องทำงานผมเก็บเสียง”

“เก็บเสียงเหรอคะ ทำไมต้องเก็บเสียงด้วยล่ะ คุณฟันผู้หญิงในห้องทำงานไปกี่คนแล้วเนี่ย”

ผมกระทืบเบรกเพื่อหันไปจ้องหน้าเธอเขม็ง “ว่าไงนะ”

เธอจ้องหน้าผมอย่างท้าทาย “ฉันเป็นสัญญาเบอร์ที่เท่าไหร่คะ”

“ให้ตายสิ แมดิสัน เธอเป็นคนแรก ผมซื่อสัตย์กับแม่ของเธอมาตลอดจนกระทั่งเมื่อ 3 สัปดาห์ก่อน ตอนที่เธอนัดเจอผมทานมื้อกลางวันเพื่อมาขอเงินเพราะเธอบอกว่าท้อง”

ดวงตาเธอคลอหน่วย “คุณกำลังจะมีลูกกับแม่เหรอคะ”

ความโกรธของผมมลายหายไปทันที ผมเอื้อมมือไปประคองแก้มเธอ “ไม่ แมดดี้แบร์ ไม่ใช่ แม่ของเธอกับผมไม่ได้มีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกันมาหลายปีแล้ว ไม่มีทางเลยที่เด็กคนนั้นจะเป็นลูกผม ผมบอกเธอไปแล้วว่าจะไม่รับผิดชอบเด็กคนนี้ บอกว่าเธอเป็นคนทิ้งผมไปและได้ตัดสินใจเลือกทางของเธอเองแล้ว ผมเป็นผู้ชาย ผมก็มีความต้องการ ความต้องการที่ถูกละเลยมานานหลายปี เพราะผมพยายามยึดมั่นในความหวังว่าเธอจะตื่นขึ้นมาและเห็นว่าผมรักครอบครัวของเรามากแค่ไหน แต่เธอก็ไม่เคยเลย”

เธอกุมมือผมไว้ “แล้วทำไมถึงยังมีชื่อแม่ในสัญญาของเราล่ะคะ”

ผมถอนหายใจขณะที่นิ้วโป้งลูบไล้แก้มเธอ “เพราะถึงแม้ผมจะรู้ดีแก่ใจ แต่ผมก็ยังหวังว่าเธอจะกลับบ้านและกลับมาเป็นคนที่ดีขึ้นเพื่อเราทั้งคู่” เสียงแตรดังขึ้นข้างหลัง ผมสบถเบาๆ แล้วเริ่มขับรถต่อ “ส่วนเรื่องห้องทำงานเก็บเสียงน่ะ มันเป็นนิสัยเก่าๆ สมัยทำงาน”

“นิสัยเก่าๆ สมัยทำงานเหรอคะ คุณทำงานช่วยให้คนเลิกกันไม่ใช่เหรอ ทำไมคุณต้องทำให้ห้องทำงานเก็บเสียงด้วยล่ะ”

ผมเหลือบมองเธอ “นี่เธอไม่รู้อะไรเลยจริงๆ สินะ”

“ก็เห็นๆ อยู่ว่าไม่รู้! เธอสวนกลับ “ตอนนั้นฉันยังเด็กอยู่เลย จำไม่ได้เหรอ”

แล้วผมก็รู้สึกเหมือนเป็นไอ้งั่งอีกครั้ง ผมเอื้อมไปจับมือเธอ ประสานนิ้วของเราเข้าด้วยกัน “ผมขอโทษนะ คนดี ผมนึกว่าแม่ของเธอจะเล่าเรื่องบางอย่างให้ฟังแล้วเสียอีก เธอบอกผมว่าเล่าแล้วนะ ผมเคยทำคดีอาญา ตอนเธออายุหกขวบ ผมทำคดีฆาตกรรมสามศพคดีใหญ่ที่ถ่ายทอดสดไปทั่วประเทศ ผมชนะคดี คณะลูกขุนกลับมาพร้อมคำตัดสินว่าไม่มีความผิดภายในเวลาไม่ถึงชั่วโมง ผมอยากฉลองกับเธอ เลยลางานช่วงบ่ายเพื่อไปรับเธอที่โรงเรียน ผมซื้อตุ๊กตาหมีเท็ดดี้สีฟ้าตัวเบ้อเริ่มที่ผูกโบว์สีม่วงอันใหญ่ให้เธอ แล้วว่าจะพาเธอไปดูหนังเรื่อง เดอะ ไวลด์ ธอร์นเบอร์รี่ส์ บ้าๆ นั่น ผมวางแผนไว้หมดแล้วสำหรับบ่ายวันนั้น แต่พอไปถึงโรงเรียนของเธอ ก็เจอผู้ชายคนหนึ่งถือปืนอยู่ ผมจำได้ว่าเป็นคนจากศาล เขาเป็นพี่ชายของหนึ่งในเหยื่อ เขากำลังจะยิงเธอ เขาไม่สนเลยว่าเธออายุแค่หกขวบ สิ่งเดียวที่สำคัญสำหรับเขาคือการทำให้ผมทรมาน วันนั้นผมพาเธอออกจากโรงเรียนนั้นทันที แล้วจัดการให้เธอเข้าเรียนโรงเรียนเอกชนที่มีเครื่องตรวจจับโลหะและมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเป็นตำรวจเกษียณพกอาวุธ ผมลาออกจากบริษัทกฎหมายของตัวเองแล้วเปลี่ยนมาทำด้านกฎหมายครอบครัว ทุกอย่างที่ผมทำนับตั้งแต่เธอเกิดมาก็เพื่อเธอทั้งนั้น มีบัญชีธนาคารในชื่อของเธอซึ่งมีเงินอยู่ราวๆ ร้อยล้านดอลลาร์ ทุกเดือนนับตั้งแต่เธอเกิด ผมฝากเงินห้าแสนดอลลาร์เข้าบัญชีนั้น ผมอยากให้มั่นใจว่าเธอจะไม่มีวันไร้บ้านหรือขาดเหลืออะไร เธอมีความหมายกับผมมากนะ คนดี ไม่มีอะไรที่ผมจะทำให้เธอไม่ได้”

เธอขยับตัวมาซบศีรษะลงบนไหล่ผม “แม่ทำร้ายหนู” เธอพูดเสียงเบา “บางทีตอนคุณไปทำงาน แม่จะพาผู้ชายมาบ้าน แล้วแม่ก็จะขังหนูไว้ในห้อง บอกว่าถ้าหนูฟ้องคุณ แม่จะเอาหนูไปทิ้งที่สถานีดับเพลิง ตอนที่แม่นอนกับเนธาน หนูน่าจะเดาได้อยู่แล้ว แต่มันก็ยังทำให้หนูใจสลาย แม่ไม่เคยยอมให้หนูมีอะไรที่ทำให้หนูมีความสุขเลย แม่ฆ่าลูกหมาที่คุณให้หนูตอนวันเกิด 8 ขวบ แม่เอายาเบื่อหนูให้มันกินต่อหน้าหนู แล้วบอกว่าแม่มีอีลูกหมาน่าสมเพชให้ต้องดูแลอยู่แล้วตัวนึง ไม่ต้องการเพิ่มอีกตัวหรอก”

ผมจูบแก้มเธอ “ผมเสียใจด้วยนะ แมดดี้ หล่อนไม่ควรได้เป็นแม่คนเลย แต่ผมดีใจที่เธออยู่ที่นี่ แค่เธอมีตัวตนอยู่ ชีวิตผมก็ดีขึ้นแล้ว”

“คุณรู้สึกแปลกๆ ไหมที่แตะต้องตัวหนู? เหมือนที่เราทำกันที่ออฟฟิศน่ะค่ะ?”

“แปลกสิ” ผมตอบตามตรง

“แล้วทำไมถึงทำล่ะคะ?”

ผมเงียบไปจนกระทั่งเราจอดรถหน้าบ้าน ผมเลื่อนเบาะถอยหลังก่อนจะดึงเธอขึ้นมานั่งบนตัก

“ก็เหตุผลเดียวกับที่เธอยอมให้ผมทำไงล่ะ เราสองคนสมควรได้รับสิ่งที่ดีกว่าที่ได้จากแอมเบอร์ ผมจะไม่โกหกเธอนะ เมดิสัน ผมอยากทำให้หล่อนเจ็บปวดที่ทำให้ผมเชื่อมาตลอดว่าเธอคือลูกสาวแท้ๆ ของผม ผมอยากทำให้หล่อนเจ็บปวดที่ทำร้ายเธอ ผมอยากทำให้หล่อนเจ็บปวดที่ทำให้ผมเสียเธอไปถึงสองปี ผมไม่เคยได้ขอโทษเรื่องที่เราทะเลาะกันเลย คืนนั้นพอกลับมาบ้านหลังจากไปสงบสติอารมณ์ เธอก็ไม่อยู่แล้ว ความคิดแรกของผมคือมีคนจับตัวเธอไป ผมเละเทะอยู่หลายสัปดาห์จนกระทั่งผมไปทะเลาะกับแม่ของเธอเรื่องที่ทำตัวเหมือนเธอไม่มีความหมาย หล่อนตอกหน้าผมกลับมา บอกว่าได้คุยกับเธอแล้ว เธอสบายดี บอกว่าเธอแค่ไม่อยากกลับบ้านเพราะผมตะคอกใส่เรื่องที่เธอแอบพาเด็กผู้ชายคนนั้นเข้ามา ฟังดูอาจจะแปลก แต่ผมดีใจที่เธอโผล่มาที่ออฟฟิศผมวันนั้น มันให้คำตอบมากมายที่ผมต้องการ มันพาเธอกลับมาหาผม”

ผมเอื้อมมือขึ้นไปสางผมเธอ “ผมอยากให้เรามีความสัมพันธ์ที่เปิดเผยต่อกันนะ แมดดี้ ผมอยากให้เธอรู้สึกสบายใจที่จะถามผมได้ทุกเรื่อง อยากให้เธอรู้สึกเป็นอิสระที่จะเรียนรู้ทุกอย่างไปกับผม ผมอยากนำทางและสอนเธอ ไม่ใช่แค่เรื่องเซ็กส์อย่างเดียว ผมอยากพูดคุยทุกเรื่องที่แอมเบอร์ทำลงไป ผมอยากแก้ไขปัญหาทุกอย่างที่หล่อนสร้างขึ้นระหว่างเรา”

เธอจ้องหน้าผมอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะถาม “ทำไมคะ?”

ผมกำผมเธอไว้ในหมัด ดึงศีรษะเธอให้เอนไปข้างหลังเล็กน้อย เพื่อที่ผมจะได้ไล้ริมฝีปากไปบนลำคอเธอ

“เพราะว่า เมดิสัน เธอมีความหมายกับผม เธอมีความหมายมาตลอด เธอเป็นหัวใจของผมเสมอ แม้กระทั่งตอนนี้ เธอก็คือทุกสิ่งทุกอย่างของผม”

ผมรู้สึกได้ถึงชีพจรที่เต้นเร็วขึ้นขณะที่ผมจูบซอกคอเธอต่อไป “มากกว่าแม่หนูเหรอคะ?”

ผมพยักหน้าขณะเลียไล่จากลำคอเธอขึ้นไปที่หู “ทุกวันในชีวิตของเธอ”

เธอพยายามก้มหน้าลง ผมจึงปล่อยให้เธอทำได้ เธอทำให้ผมประหลาดใจด้วยการจูบริมฝีปากผม “หิวไหมคะ? หนูต้องทำอาหารให้คุณนี่นา”

ผมหัวเราะเบาๆ ชิดริมฝีปากเธอขณะที่จับสะโพกเธอให้ขยับเบียดกับส่วนที่แข็งขืนของผม รับรู้ได้ว่าเธอต้องการจบการสนทนา “หิวไส้จะขาดเลยล่ะ”

เธอจูบปากผมแผ่วๆ อีกครั้ง “คุณไปอาบน้ำเถอะค่ะ เดี๋ยวหนูทำอาหารเอง”

เธอกระโดดลงจากรถ วิ่งเข้าบ้านไป ผมพิงรถ มองดูเธอกดรหัสเก่าของเธอที่ล็อคประตู ก่อนที่เธอจะหมุนตัวกลับมาด้วยสีหน้าตกตะลึงเมื่อประตูเปิดออกทันที

“คุณยังเก็บรหัสหนูไว้อีกเหรอคะ?”

ผมพยักหน้า “ผมอยากให้เธอรู้ว่าที่นี่ยินดีต้อนรับเธอกลับบ้านเสมอ ไม่ว่าเธออยากจะกลับมาเมื่อไหร่ก็ตาม”

เธอวิ่งกลับมาหาผม จูบแก้มผมฟอดหนึ่งก่อนจะวิ่งหายเข้าไปข้างใน ผมเดินตามเข้าไปพร้อมรอยยิ้มบนใบหน้า ตามเสียงกระทบกันของหม้อไปยังห้องครัว ที่ซึ่งผมยืนพิงกรอบประตูมองดูเธอเริ่มปอกและหั่นมันฝรั่งอย่างกระตือรือร้น สองสามนาทีต่อมา เธอก็เงยหน้ามองผม หน้าแดงก่ำ

“คุณต้องการอะไรหรือเปล่าคะ?”

“เปล่า ผมแค่มองเธอน่ะ”

เธอส่งยิ้มกว้างให้ผม “นานมากแล้วที่หนูไม่ได้ทำอาหาร หนูไม่ค่อยมีเงินซื้อของกินเท่าไหร่”

ผมเดินทอดน่องเข้าไปหาเธอ วางมือบนสะโพกขณะจูบแก้มเธอ “ดีใจที่เธอกลับบ้านนะ ที่รัก”

เธอเอนหลังพิงผมอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะไล่ผมออกจากห้อง ผมกอดเธอไว้สองสามวินาทีก่อนจะบังคับตัวเองให้ออกห่างจากเธอเพื่อไปอาบน้ำ ผมคงต้องเชื่อใจเธอว่าจะไม่หนีไปอีก แม้จะมีความคิดนั้นอยู่ในใจ ผมก็รีบอาบน้ำอย่างรวดเร็วก่อนจะหยิบกางเกงวอร์มสีดำมาใส่ ผมเดินไปที่ประตูห้องเพื่อฟังเสียงเธอทำกุกกักอยู่ในครัว

“นี่! อาบน้ำเสร็จรึยัง?!” เธอตะโกนลั่น

ผมเลิกคิ้ว เธอตะโกนใส่ผมเหรอ? ไม่เคยมีใครตะโกนใส่ผม ทุกคนรู้ดีว่าผมไม่ตอบสนองใคร ผมเดินไปนั่งบนเตียง กอดอกรอให้เธอมาตามหาผมขณะที่เธอยังคงตะโกนเรียกผมไม่หยุด ในที่สุด ผมก็ได้ยินเสียงเธอบ่นอุบอิบขณะกระทืบเท้าปึงปังมาตามโถงทางเดินตรงมายังห้องผม เธอเลี้ยวตรงหัวมุมเข้ามา แล้วปากผมก็อ้าค้าง

สายตาผมไล่มองร่างเธอ ผมอ้าปากพะงาบๆ อยู่หลายครั้ง ก่อนจะเค้นคำพูดออกมาได้ในที่สุด “นั่นเธอใส่ชุดอะไรน่ะ?”

Previous ChapterNext Chapter