




บทที่ 7- เลือกฉัน
ฉันรู้สึกเหมือนกำลังจะตาย กระดูกทุกข้อในร่างเหมือนกำลังจะหลอมละลาย พวกหมอรีบวิ่งเข้ามา ติดโน่นติดนี่บนตัวฉัน
“อิลิกเซอร์! ฉีดให้เธอเดี๋ยวนี้!” หนึ่งในนั้นตะโกนด้วยน้ำเสียงตื่นตระหนก ทุกอย่างเริ่มพร่าเลือนและฉันก็เริ่มร้อนขึ้น
“เธอไม่มีเมทเหรอ!!!?”
“ถ้าฉันรู้ ป่านนี้เราคงไม่ต้องมาอยู่ตรงนี้หรอก!” อีกคนตวาดกลับ
ฉันมองเพดาน หายใจหอบ นี่สินะ เมทบ้าๆ ของฉันไม่คิดแม้แต่จะมาดูฉันเลย เขาอยู่แถวนี้ ฉันรู้สึกได้ เขาอยู่แถวๆ นี้แหละ
“ไม่ อย่า” ฉันพูดพลางขยับตัวหนีผู้หญิงที่พยายามจะฉีดยาให้ฉัน ฉันไม่อยากอาการดีขึ้น ฉันทำไม่ได้ มันไม่มีประโยชน์ที่จะมีชีวิตอยู่ มันไร้ค่า เมทของฉันคงไม่รักฉันหรือทิ้งฉันไป อีกไม่นานฉันคงกลายเป็นตัวตลกของฝูง ตายๆ ไปซะตอนนี้เลยดีกว่า ไหนๆ ก็มีโอกาสแล้ว
“จับเธอกดไว้! ถ้าไม่มียานั่น เธอทนได้อีกไม่นานหรอก!” คนที่จับขาฉันกันไม่ให้เตะตะโกนบอกเพื่อนร่วมงาน
ฉันถูกจับกดไว้ ไม่นานก็ถูกฉีดยาเข้าที่รอยสัญลักษณ์ของฉันพอดี มันเหมือนมีน้ำเย็นราดรดลงมาหลังจากอยู่ในกองไฟมานาน
ฉันผ่อนลมหายใจเย็นเยียบออกมา
“อาการเธอคงที่แล้ว” ผู้หญิงคนแรกพูดพลางถอนหายใจ “เราต้องแจ้งอัลฟ่า ไม่ว่าเมทของเธอจะเป็นใคร เขาต้องแสดงตัวก่อนจะสายเกินไป”
“ไม่ต้องลำบากหรอก เขาไม่มาหรอก” ฉันพูดอย่างขุ่นเคือง
“เราจะส่งข่าวออกไป” คนที่สองพูด ไม่สนใจฉันเลย “เมทของเธอจะได้ยิน แล้วต้องมาแน่ๆ”
ฉันถอนหายใจ มันไร้ประโยชน์ที่จะพยายามอธิบายอะไรกับพวกเขา
พวกเขาไม่รู้หรอกหรือ?
ฉันนอนอยู่บนเตียง ปล่อยให้ความคิดล่องลอยไปว่าเมทของฉันกำลังทำบ้าอะไรอยู่
เขาอยู่กับผู้หญิงคนนั้นหรือเปล่า เขาพูดกับหล่อนอ่อนโยนเหมือนที่เคยพูดกับฉันไหม
ฉันผ่อนลมหายใจเพื่อหยุดความคิดฟุ้งซ่านสักพัก
ฉันลุกจากเตียง รู้สึกเวียนหัวนิดหน่อยเพราะนอนอยู่บนเตียงมานาน ฉันต้องการอากาศหายใจ
เป็นเวลาเย็นอีกแล้ว ดูเหมือนว่าตอนนี้ฉันจะตื่นทุกเย็น เพราะส่วนใหญ่ฉันจะหมดสติไปตอนกลางวัน
ฉันกระชากประตูเปิดก็เจอแซมอยู่อีกฝั่ง
“ไง” เธอบอกพลางยิ้มแหยๆ ให้ฉัน “ฉันกำลังจะเปิดพอดี” ฉันมองเธออย่างพิจารณา ใบหน้าเธอมีเหงื่อเคลือบอยู่ชั้นหนึ่ง และเห็นได้ชัดว่าเธอเพิ่งร้องไห้มา
“โอเคไหม?” ฉันมองเธอด้วยความเป็นห่วงอย่างเห็นได้ชัด
เธอพยักหน้า ไม่เปิดโอกาสให้ฉันพูดอะไรต่อ
“ไปวิ่งมาน่ะ ฉันเอาของพวกนี้มาให้” เธอยัดตะกร้าใส่มือฉัน “ฉันคิดว่าเธออาจจะหิว ฉัน.. ฉันต้องไปแล้ว ไว้เจอกันนะ” เธอวิ่งหนีไปทันทีที่มาถึง
ฉันกลับเข้ามาในห้อง มองดูในตะกร้าว่าเธอเตรียมอะไรมาให้ ตอนนั้นเองที่ฉันสัมผัสได้ถึงตัวตนนั้น
มันเหมือนเดิมกับคราวก่อน เพียงแต่มันดูเหมือนจะรักษาระระยะห่าง ไม่เข้ามาใกล้ฉัน
“ใครอยู่ตรงนั้น?” ฉันถามออกไปในความว่างเปล่า
อาจจะไม่ใช่สิ่งที่ฉลาดที่สุดที่ฉันควรทำ แต่ฉันไม่สนใจ ไม่มีคำตอบ “ฉันสาบานนะ ตอบฉันมา!” ฉันกรีดร้อง รู้สึกกลัวนิดๆ
ตัวตนนั้นดูเหมือนจะขยับเข้ามาใกล้ขึ้นเล็กน้อย มันเหมือนม่านพลังงานที่สัมผัสผิวฉันแผ่วเบา
ฉันถอยหลังไปก้าวหนึ่ง ฉันรู้สึกว่าหมาป่าในตัวขยับเล็กน้อย เธอจำตัวตนนั้นได้
“ฉันสาบานเลยว่าจะกรี๊ดถ้าคุณไม่ปรากฏตัวออกมา”
ยังคงไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ฉันทำท่าจะกรีดร้อง แต่รู้สึกเหมือนมีมือวางอยู่บนคอฉัน ฉันทำได้แค่ส่งเสียงเหมือนสำลักออกมา
ประตูเหวี่ยงเปิดออก เผยให้เห็นชายที่ฉันไม่คิดว่าเขาจะมาหาฉันด้วยซ้ำในเย็นนี้
เขายืนนิ่งอยู่ครู่หนึ่ง ตกใจเกินกว่าจะเข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น แรงกดดันที่คอเบาลง ทำให้ฉันหายใจได้นิดหน่อย แต่ฉันก็ยังไม่สบายใจที่มีมันอยู่รอบตัว มันคือฉันที่กำลังต่อสู้กับพลังที่มองไม่เห็น
“ลูเซีย!” เขาตะโกนเสียงดังลั่น คว้าขาฉันแล้วดึงเข้าไปหาเขา แรงกดดันหายไปหมดสิ้น ราวกับไม่เคยมีอยู่ตั้งแต่แรก
“เธอปลอดภัยแล้ว” เขากอดฉันแน่น
“คุณมาทำอะไรที่นี่?” ฉันถาม เสียงอู้อี้อยู่ในเสื้อเชิ้ตของเขา
“พวกหมอบอกเรื่องตามหาเมทของเธอ ฉันต้องรีบมาให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้” ฉันผละออกจากเขา “มีอะไรผิดปกติเหรอ?” เขากล้าถามออกมาได้
เรื่องทั้งหมดเกิดขึ้นเมื่ออย่างน้อยสองชั่วโมงที่แล้ว แต่เขาเพิ่งจะมาเนี่ยนะ?
ฉันสูดหายใจลึก ดูเหมือนจะเป็นสิ่งเดียวที่ฉันทำได้ในตอนนี้
“ไม่มีอะไรค่ะ คุณไม่ได้ทำอะไรผิด ฉันแค่... รับไม่ไหว แค่นั้นเอง”
เขาพยักหน้า เชื่อคำพูดของฉัน บอกว่าฉันรำคาญคงไม่เท่ากับความรู้สึกที่ฉันมีอยู่ตอนนี้
“ฉันรู้ มันคงน่ากลัวน่าดู ฉันจะสืบให้ถึงต้นตอเรื่องนี้ให้ได้ ฉันสาบาน” เขาพูดพร้อมตบหัวฉันเบาๆ อย่างปลอบโยน
ประตูเปิดออก และองครักษ์ของฝูงคนหนึ่งโผล่หน้าเข้ามา
“อัลฟ่า คุณคามิลล์ครับ” เขาพูด ทำให้ฉันโมโหขึ้นมาทันที
เคเดนรีบจุ๊ปากให้เจ้าคนนั้นเงียบ
“ฉันต้องไปแล้ว” รู้สึกเหมือนมีก้อนน้ำหนักกดทับอยู่บนบ่า ฉันคว้าเสื้อเชิ้ตเขาไว้
“อยู่ต่อเถอะ... นะคะ” ฉันอ้อนวอนอย่างน่าสมเพช ฉันอยากจะเห็นแก่ตัวดูบ้าง แม้จะเป็นแค่ครั้งนี้ก็ตาม
“หล่อนต้องการฉัน ลูซ”
“ฉันต้องการคุณมากกว่า” ฉันเกลียดที่เสียงตัวเองฟังดูอ่อนแอเหลือเกิน “คุณเคยบอกว่าหล่อนไม่มีความหมายอะไร เป็นแค่เรื่องพันธมิตร ฉันต้องการคุณมากกว่านะเคเดน ได้โปรดเถอะ” ฉันซบหน้ากับอกเขา
เขาคว้าเอวฉัน กอดแน่นราวกับชีวิตเขาขึ้นอยู่กับมัน
“ลูเซีย” เขาถอนหายใจเรียกชื่อฉันเหมือนลมหายใจที่สดชื่น
ฉันรู้สึกหัวใจเต้นผิดจังหวะไปเล็กน้อย มันคือลมหายใจที่สดชื่นสำหรับฉัน เขาเลือกฉัน
ความรู้สึกนั้นอยู่ได้ไม่นานเมื่อเขาแกะมือฉันออกจากเสื้อเชิ้ตของเขา
“ฉันขอโทษ ฉันต้องแน่ใจว่าเรื่องนี้จะผ่านไปด้วยดี”
หัวใจฉันหล่นวูบทันทีที่ความโล่งใจเข้ามา
“คุณกำลังเลือกฉัน... มากกว่าหล่อนเหรอ?”
“ฉันกำลังเลือกฝูง ตอนนี้ฉันเป็นอัลฟ่า ฉันจะเลือกแค่เธอคนเดียวไม่ได้” เขาพูดขณะที่ดวงตาสีฟ้าคมปานเหล็กกล้ากวาดมองไปทั่วใบหน้าฉัน
ฉันมองหน้าเขา
“ทำไมล่ะ? ทุกคนก็เลือกเมทของตัวเองก่อนทั้งนั้น!” ฉันอุทานอย่างหงุดหงิด
“พวกเขาไม่ได้มีความรับผิดชอบเหมือนที่ฉันมี!”
ฉันถอยหลังไปก้าวหนึ่ง