




บทที่ 10 - หลบหนี
ถึงเวลาแล้ว ในที่สุดฉันก็จะไปเสียที ฉันเตรียมกระเป๋าพร้อมกับของเล็กๆ น้อยๆ ที่วางแผนจะเอาไปด้วย ครั้งนี้ฉันเขียนโน้ตสั้นๆ ที่ตรงประเด็นถึงแม่
หนูจะไปสักพักนะคะ ดูแลตัวเองดีๆ นะคะ
หนูรักแม่เสมอ
ลูเซีย รัก จุ๊บ
ฉันแขวนมันไว้ที่ตู้เย็น โชคดีที่แม่ไม่อยู่ ฉันคงรับมือกับอารมณ์ความรู้สึกที่แน่นอนว่าจะตามมาเมื่อแม่รู้ว่าฉันกำลังจะหนีไปไม่ไหวแน่
ฉันเอาสัมภาระไปซ่อนไว้ที่มุมลับตาตรงเขตแดน เป็นที่ที่ฉันแน่ใจว่าจะไม่มีใครเห็น เป็นที่ที่กลิ่นเสื้อผ้าของฉันจะถูกกลบได้
เมื่อแน่ใจว่าไม่มีใครมองอยู่ ฉันก็ฝังกระเป๋าไว้ แล้ววิ่งกลับบ้าน มันต้องสมบูรณ์แบบ พลาดนิดเดียวฉันมั่นใจเลยว่าจะต้องตายในฝูงนี้
เวลา 23:48 น. เป๊ะ ฉันต้องข้ามเขตแดนนั้นไปให้ได้ ห้ามขาดห้ามเกิน เวลาอื่นนอกเหนือจากที่กำหนดไว้คือหายนะ นั่นเป็นเวลาที่พวกนั้นเปลี่ยนเวรยามพอดี
ฉันเดินกลับบ้าน ความกังวลกัดกินใจฉัน
ฉันถอนหายใจยาวออกมาทางปาก ครั้งสุดท้ายที่ฉันทำอะไรลวกๆ ฉันถูกจับได้ แต่ครั้งนี้? ฉันรอบคอบมาก ต้องการให้ทุกอย่างราบรื่นไปด้วยดีอย่างยิ่ง
ฉันเดินไปเดินมาในห้อง ความกังวลทำให้ฉันคิดอะไรไม่ออก
ก๊อก ก๊อก
ประตูเปิดออกเผยให้เห็นแซม ฉันเกือบสบถออกมา ฉันลืมล็อกประตู นี่มันโง่จริงๆ ลองนึกดูสิว่าถ้าเธอเดินเข้ามาตอนฉันกำลังเก็บของจะเป็นยังไง?
"เธอ...โอเคหรือเปล่า" เธอมองฉันอย่างไม่ค่อยเชื่อ
"ทำไมฉันจะไม่โอเคละ" เสียงฉันสูงผิดปกติ ฉันกัดริมฝีปากด้านใน
"ไม่รู้สิ เธอดูหน้าซีดๆ นะ" เธอเดินเข้ามาในบ้าน "เธอรู้สึกเจ็บปวดอีกแล้วเหรอ ต้องการให้ฉัน-"
"ซาแมนธา!" ดูเหมือนเธอจะผงะไปกับท่าทีของฉัน ฉันจึงรีบควบคุมอารมณ์ตัวเอง "ฉันสบายดี โอเค้ะ? ก็แค่มีปัญหาที่โรงเรียนนิดๆ หน่อยๆ เท่านั้นแหละ" ดูเหมือนเธอจะเข้าใจที่ฉันพูด เธอไม่มีทางรู้หรอก ก็เราเรียนโรงเรียนเดียวกันนี่นา
"ฉันขอโทษนะ" เธอทำหน้าเศร้า "ฉันอยากจะทำให้พวกนั้นหยุดได้ แต่โชคร้ายที่ทำไม่ได้ ฉันขอโทษที่วันนี้ไม่ได้อยู่ข้างๆ เธอ" ฉันเกือบจะกลอกตาใส่ ไม่มีอะไรที่เธอทำได้เลยจริงๆ แม้ว่าเธอจะอยู่ข้างฉัน สิ่งเดียวที่การอยู่ข้างฉันจะทำได้ก็คือทำให้เธอต้องมารับเคราะห์จากสิ่งที่ฉันเผชิญอยู่ด้วย
"ช่างมันเถอะ อะไรที่ผ่านไปแล้วก็ให้มันผ่านไป เธอมาหาฉันมีอะไรรึเปล่า"
"ใช่ ฉันมาดูว่าเธอเป็นยังไงบ้าง แล้วก็ได้เวลาอาหารเย็นแล้วด้วย" ฉันยิ้มให้เธอพลางส่ายหน้าปฏิเสธ ฉันเสี่ยงไม่ได้ ฉันอาจจะกินแล้วรู้สึกอิ่มหนักจนเผลอหลับไป
ฉันอาจจะอยู่ข้างนอกจนดึกแล้วพลาดโอกาสไปก็ได้
สิ่งที่ดีที่สุดที่ฉันทำได้คืออยู่ที่นี่
"ฉันว่าฉันไปกินข้าวที่นั่นไม่ได้หรอก เรื่องที่ฝูงมันก็ไม่ได้ต่างจากที่โรงเรียนเท่าไหร่หรอกนะ เธอรู้ไหม" และนั่นคือเรื่องจริง ก็เด็กกลุ่มเดียวกับที่นินทาว่าร้ายฉันตามทางเดินในโรงเรียนนั่นแหละที่พูดแบบเดียวกันในฝูง แค่เปลี่ยนสถานที่เท่านั้นเอง
"โอ้ ฉันไม่ทันคิดเลย งั้นเดี๋ยวฉันไปเอาอาหารของเรามานะ ฉันจะกินที่นี่กับเธอ" เธอยิ้มแล้วรีบวิ่งไปที่ประตู
"ไม่นะ!" ฉันกรีดร้องอย่างตื่นตระหนก
ดูเหมือนนั่นจะทำให้เธอตกใจ เพราะเธอหันขวับกลับมามองหน้าฉันทันที ฉันถอนหายใจแสดงให้เห็นว่าฉันเหนื่อย "ฟังนะแซม ฉันรู้ว่าเธอเป็นห่วง แต่ฉันเหนื่อยล้าทั้งกายทั้งใจ ตอนนี้ฉันแค่...ฉันแค่อยากอยู่คนเดียวและต้องการเวลาปรับอารมณ์" ฉันพูด พยายามแสร้งแสดงอารมณ์ออกมาอย่างดีที่สุด
ฉันหวังจริงๆ ว่าคำอธิบายนี้จะเพียงพอ ฉันต้องทำให้เธอเลิกยุ่งกับฉันจนกว่าฉันจะข้ามเขตแดนฝูงไปได้
เธออ้าปากจะพูดหลายครั้งก่อนจะเอ่ยออกมาในที่สุด "ฉันขอโทษนะ" เธอดูรู้สึกผิด "แค่ช่วงนี้ฉันไม่ค่อยได้เจอเธอเลย แล้วฉันก็คิดว่าบางที..." เธอส่ายหน้า "ฉันขอโทษ เดี๋ยวพรุ่งนี้เช้าฉันมาใหม่นะ" ฉันมองเห็นรอยยิ้มนั้นทะลุผ่านได้ เธอเสียใจ
แซมไม่ใช่คนประเภทที่ชอบถูกกันออกจากเรื่องต่างๆ และเธอชอบช่วยเหลือเท่าที่ทำได้ ดังนั้นฉันรู้ว่านี่เป็นเรื่องที่ทำให้เธอเสียใจแน่นอน
"ขอบใจนะ" ฉันเมินเฉยต่ออารมณ์ของเธอแล้วปิดประตู
โดยไม่รอให้เธอไปก่อนด้วยซ้ำ
ฉันมองนาฬิกาแล้วถอนหายใจ
"อีกไม่กี่ชั่วโมง" ฉันกระซิบกับตัวเอง
**
ถึงเวลาแล้ว อีกแค่ไม่กี่นาทีก็จะถึงเวลา ฉันเริ่มเดินไปเงียบๆ มันทำให้ดูน่าสงสัยน้อยลง การที่ใครสักคนอยากจะออกมาเดินเล่นเวลานี้ก็ไม่ใช่เรื่องแปลก
ฉันถึงกับทักทายไปสองสามคน แม้ว่าพวกเขาจะมองฉันแปลกๆ ก็ตาม
ฉันเร่งฝีเท้าเมื่อเวลาใกล้เข้ามา ตอนนี้ฉันหอบเล็กน้อย ฉันรีบขุดกระเป๋าขึ้นมาแล้วเดินต่อ
ถึงแล้ว ฉันได้กลิ่นมัน อิสรภาพ
ในที่สุดฉันก็จะเป็นอิสระจากความอัปยศอดสู ความเจ็บปวด ทุกสิ่งทุกอย่าง ฉันกำลังจะเริ่มต้นชีวิตใหม่
เขตแดนว่างเปล่าอย่างที่ฉันคาดไว้ ไม่มีอะไรขวางกั้นระหว่างฉันกับอิสรภาพ
ฉันเร่งฝีเท้า หรืออย่างน้อยก็พยายาม ฉันเริ่มหายใจไม่ทัน ฉันรู้สึกได้ว่าสายใยที่มองไม่เห็นซึ่งผูกมัดฉันไว้กับฝูงเริ่มตึงเปรี๊ยะ
"ลูเซีย!!" ขนทั่วร่างฉันลุกซู่ ไม่จริงน่า นี่มันเป็นไปไม่ได้ ฉันระวังตัวดีมากแล้ว ไม่มีทางที่เขาจะรู้ได้ "กลับมานี่ เดี๋ยวนี้!!" ฉันสัมผัสได้ถึงความโกรธเกรี้ยวของเขาจากตรงนี้ ฉันพยายามสงบสติอารมณ์ เขายังอยู่ไกลเกินไป ไม่มีทางที่เขาจะตามฉันทัน ฉันรีบวิ่งเหยาะๆ ต่อไปจนกระทั่ง...
ลมหายใจถูกกระแทกออกจากปอดฉันในทันใด พื้นดินพุ่งเข้ามาใกล้ใบหน้าฉัน รู้สึกเหมือนโลกทั้งใบกำลังเคลื่อนไหวช้าลง
ฉันพลิกตัวจากแรงกระแทก เป็นเอริค ฉันจำหมาป่าของเขาได้ไม่ว่าที่ไหน เขาแปลงร่างกลับเป็นคนต่อหน้าฉันในสภาพเปลือยกายล่อนจ้อน มันทำให้ฉันรู้สึกกระอักกระอ่วนเล็กน้อย
โดยทั่วไปแล้วพวกหมาป่าจะรู้สึกสบายๆ กับการเปลือยกาย แต่ไม่ใช่เมื่ออวัยวะส่วนนั้นของผู้ชายแกว่งไปมาอยู่ตรงหน้าฉันพอดี
ฉันรีบลุกขึ้น โลกดูพร่ามัวเล็กน้อย ฉันพยายามหนีเขา แต่มีของแหลมคมบางอย่างแทงเข้าที่สีข้างฉันจากด้านหลัง มันทำให้ต้นคอฉันรู้สึกแสบแปลบ และทำให้ฉันหมดสติไป โดยไม่ทันได้รู้สึกถึงความเจ็บปวดด้วยซ้ำ