




หัวใจแตก
เธอไม่รู้ว่าตัวเองนอนอยู่บนพื้นนานเท่าไรแล้ว ตอนที่ได้ยินเสียงใครบางคนเรียกชื่อเธอ "อเล็กเซีย! อเล็กเซีย! อเล็กเซีย!"
เธอแยกไม่ออกว่าเสียงนั้นมาจากไหนหรือใครเป็นคนเรียกชื่อ และเธอก็ไม่สนใจ เธอหวังเพียงว่าจะเลือนหายไปในความว่างเปล่า
"อเล็กเซีย!" เอ็ดมันด์ร้อง พลางจับไหล่เธอแล้วดึงร่างเข้ามาหา "เล็กซ์ เป็นอะไรไป เกิดอะไรขึ้น" เธอสะอื้นหนักกว่าเดิม "เล็กซ์ บอกฉันสิว่าเกิดอะไรขึ้น" น้ำตายังคงไหลไม่หยุด "ไม่เป็นไรนะ" เขาพูด พยายามเกลี้ยกล่อมให้เธอตอบ
"เล็กซ์ ผมช่วยไม่ได้นะถ้าคุณไม่บอกว่าเกิดอะไรขึ้น" เขาพยายามอ้อนวอนอย่างหมดหนทาง "ได้โปรดเถอะ เล็กซ์ บอกผมทีว่าเกิดอะไรขึ้น"
ฟ้าผ่าลงต้นไม้ใกล้ๆ เอ็ดมันด์สบถ เขาต้องพาเธอออกไปจากที่นี่ แต่ก็ทำให้เธอขยับไม่ได้
เขาเห็นเธอจากหน้าต่างห้องขณะกำลังดูพายุ แล้วรีบวิ่งมาหาเมื่อสังเกตเห็นเธอนอนอยู่บนพื้น ด้วยกลัวว่าจะมีอะไรร้ายแรงเกิดขึ้นกับเธอ
เธอสะอื้นพูดคำสองสามคำออกมาอย่างจับใจความไม่ได้
"เล็กซ์ ผมรู้ว่าคุณพยายามอยู่ แต่ผมฟังไม่รู้เรื่องเลยตอนที่คุณร้องไห้" เขาบอกเธอ พยายามทำเสียงให้อ่อนโยนที่สุดเท่าที่จะทำได้
เธอยืดตัวตรง น้ำตายังคงไหลอาบแก้ม "เขาคือเมทของฉัน" เธอพึมพำเสียงเบาหวิวแทบไม่ได้ยิน ยิ่งทำให้เธอร้องไห้หนักขึ้น เธอซบหน้าลงกับฝ่ามือ
"อะไรนะ ใครเหรอ" เอ็ดมันด์ถามอย่างสับสน เขาเพิ่งเจอเธอเมื่อไม่นานมานี้เอง
เธอยังคงส่ายหน้าทั้งน้ำตา
"เล็กซ์...บอกผมมา" เขาพูด พยายามคาดคั้น
"แคสเปียน" เธอเอ่ยด้วยเสียงแผ่วเบาราวกระซิบ "แคสเปียน" เธอย้ำ เอ็ดมันด์นิ่งไป ลมหายใจเหมือนถูกกระชากออกจากปอด เขามองอเล็กเซียราวกับเธอมีสามหัว ในที่สุดเขาก็หลุดจากภวังค์และเริ่มเคลื่อนไหว
"เข้าไปคุยกันข้างในเถอะ" เอ็ดมันด์พูดพลางดึงเธอให้ลุกขึ้น พาไปยังประตูหลัง แล้วเข้าไปในครัว
เขาให้เธอนั่งลงบนเก้าอี้ หาผ้าขนหนูมาห่อตัวให้ขณะที่น้ำจากเสื้อผ้าหยดลงบนพื้นครัว จากนั้นเขาก็ไปชงชาและหาขนมอบต่างๆ มาให้ เพื่อให้เธอมีโอกาสสงบสติอารมณ์ลงบ้าง
เขาวางชาและอาหารลงตรงหน้าเธอ รอจนกระทั่งลมหายใจของเธอเริ่มสม่ำเสมอและน้ำตาเริ่มหยุดไหล
เมื่อรู้สึกว่าเธออาการคงที่แล้ว เขาก็ไปหยิบเสื้อผ้าสะอาดจากห้องของเธอมาให้ เธรับมาอย่างขอบคุณในความใส่ใจของเขาแล้วเดินไปเข้าห้องน้ำใกล้ๆ เพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้า เธอใส่เสื้อผ้าเปียกไว้ในถุงแล้วกลับมานั่งที่เดิม สูดหายใจลึกเพื่อตั้งสติ
จากนั้น เอ็ดมันด์ค่อยๆ นั่งลงบนเก้าอี้ข้างๆ เธอ ด้วยสีหน้าเป็นห่วง เขากุมมือเธอไว้ พยายามมอบความปลอบโยนให้
"เกิดอะไรขึ้น เล่ามาตั้งแต่ต้นเลยนะ บอกผมมาให้หมด ไม่ต้องรีบ เรามีเวลา" เขาพูดด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลปลอบประโลม เธอดื่มชาไปอึกหนึ่งแล้วนั่งตัวตรง เริ่มเล่า
"ฉ-ฉันได้กลิ่น... กลิ่นหนึ่ง มันหอมสมบูรณ์แบบมาก... จนต้องเป็นเมทของฉันแน่ๆ ฉันเลยตามกลิ่นไป มันจางมาก" เธอพูด แทบจะเค้นคำพูดออกมาไม่ได้
"กลิ่นมันอย่างน้อยก็หลายชั่วโมงแล้ว" เสียงเธอสั่นขณะพูด "ฉ-ฉันเลยรีบตามไป ฉันไม่อยากให้กลิ่นหายไป"
"ฉันตามไปจนถึงประตูห้องนอนเขา แล้วพ-พอไปถึง..." เธอพูดเสียงขาดห้วง "ข-เขาอยู่กับผู้หญิงคนหนึ่ง ฉันได้ยินเสียงพวกเขา" เธอพูด น้ำตาก็เริ่มไหลอีกครั้ง เขาปล่อยให้เธอร้องไห้ ไม่ได้ซักไซ้ต่อ ปล่อยให้เธอร้องไห้เท่าที่ต้องการ
เมื่อเธอหยุดร้องไห้ในที่สุด ส่วนใหญ่เพราะร้องจนน้ำตาแห้งเหือด เธอก็กินอาหารที่เอ็ดมันด์หามาให้ไปสองสามคำ พวกเขานั่งอยู่ตรงนั้นทั้งคืนในความเงียบ สายตาเธอจับจ้องอยู่ที่จุดหนึ่งบนพื้น จ้องมองด้วยความรู้สึกชาด้านต่อความเจ็บปวด
เมื่อรัตติกาลจางหายและรุ่งอรุณใกล้เข้ามา ลูก้าก็เดินโซซัดโซเซลงมาชั้นล่างเข้ามาในครัว
"ขอกาแฟหน่อย" เขาพูด สภาพเหมือนคนใกล้ตาย "เมื่อคืนนอนไม่หลับเลย รู้สึกเหมือนมีเรื่องไม่ดีเกิดขึ้นตลอดเวลา" เขาหันไปเห็นเอ็ดมันด์กับอเล็กเซีย ดวงตาเบิกกว้างเมื่อเห็นสภาพยุ่งเหยิงของน้องสาว เธอดูเหมือนผ่านเรื่องหนักหนาสาหัสมา
"เล็กซ์ เกิดอะไรขึ้น" เขาถาม มองทั้งคู่ ตอนนี้ตื่นเต็มตาแล้ว
อเล็กเซียเล่าเหตุการณ์เมื่อคืนให้ฟังอย่างช้าๆ จิบชาไปด้วย เธอร้องไห้ออกมาบ้าง แต่ลูก้าก็อดทนรอให้เธอเล่าต่อ ลูก้าโกรธมากขึ้นเรื่อยๆ กับทุกคำที่ได้ยิน "ไอ้เวรเอ๊ย" เขาคำราม "โทษที" เขาพูดพลางมองเอ็ดมันด์ "ไม่เป็นไร ผมก็โกรธเหมือนคุณนั่นแหละ" ชายทั้งสองลุกขึ้นเดินไปรอบๆ ครัวเพื่อหากาแฟเพิ่ม
"เรารู้ไหมว่าใครอยู่กับเขาข้างบนนั่น" ลูก้าถามเอ็ดมันด์เสียงเบาขณะที่อเล็กเซียจิบชา "ไม่รู้เลย เขาไม่มีแฟนนะ แล้วผมก็ไม่เคยเห็นเขาอยู่กับใครด้วย" เจ้าชายหนุ่มตอบ สีหน้าครุ่นคิดอย่างหนัก
หลังจากดื่มกาแฟหมดไปอีกแก้ว ลูก้าก็กลับขึ้นไปข้างบน เก็บข้าวของของพวกเขาทั้งสองคนแล้วขนไปใส่รถกระบะของเขา
"พอเขาตื่นขึ้นมา เขาคงได้กลิ่นเธอแน่ๆ เพราะงั้นถ้าเธอไม่อยากคุยกับเขาตอนนี้ เราต้องรีบไปกันแล้ว" ลูก้าพูดกับน้องสาว
"ฉ-ฉันว่าฉันยังไม่พร้อมเจอหน้าเขา ฉันยังได้ยินเสียงพวกเขาอยู่ในหัว..." อเล็กเซียพูดเสียงแผ่วลง "งั้นก็ไปกันเถอะ" พี่ชายของเธอตอบ
ทั้งสามคนเดินออกไปยังรถกระบะด้วยกัน
"ขอบคุณนะ เอ็ดมันด์" อเล็กเซียพูดพลางกอดเขา แล้วหันไปปีนขึ้นเบาะหน้า เธอดึงขาขึ้นมากอดไว้ งอตัวเป็นก้อน พยายามประคองตัวเอง
"ด้วยความยินดีเสมอ เล็กซ์" เขาตอบ
ลูก้าใส่กระเป๋าใบสุดท้ายลงในรถแล้วพูดกับเอ็ดมันด์พลางจับมือ "เอ็ด ขอบคุณที่ดูแลเล็กซ์นะ ไม่รู้เลยว่าถ้าไม่มีนาย พวกเราจะเป็นยังไง" เอ็ดมันด์พยักหน้ารับแล้วถอยหลังไปขณะที่ลูก้าขึ้นไปนั่งเบาะหน้าแล้วขับรถกระบะออกจากวังไป