Read with BonusRead with Bonus

ทีมออน เดอะ ทาวน์

ในที่สุดสุดสัปดาห์ของแก๊งค์ก็มาถึง และก็ได้เวลาที่อเล็กเซียกับลูก้าจะมาเจอเพื่อนๆ พวกเขาเก็บข้าวของไว้ที่เบาะหลังรถกระบะของลูก้า แล้วเริ่มเดินทางไปยังวัง วันนั้นเป็นวันที่อากาศดี ท้องฟ้าแจ่มใส หลังจากเปิดวิทยุ อเล็กเซียก็ลดกระจกรถลง ปล่อยให้ลมปะทะใบหน้า แอบหวังลึกๆ ว่าจะได้กลิ่นคู่แท้ของเธอ

พวกเขามาถึงวังเป็นกลุ่มแรก แล้วไปหาเอ็ดมันด์หลังจากเอาประเป๋าไปเก็บที่ห้องของตัวเอง

เอ็ดมันด์เงยหน้าจากโต๊ะทำงานเมื่อเห็นทั้งสองคนเดินเข้ามา "ถึงเวลาแล้วเหรอเนี่ย" เขาถาม

"ไม่เป็นไร พวกนั้นยังมาไม่ถึงเลย" ลูก้าตอบ

ติ๊ง! เสียงโทรศัพท์ของพวกเขาก็ดังขึ้น

"แชทกลุ่มน่ะ" อเล็กเซียพูดพลางมองโทรศัพท์ "พวกเขากำลังขับรถเข้าประตูวังมาแล้ว" เธอเสริม

"งั้นก็พอแค่นี้ก่อนแล้วกัน ออกไปเจอพวกเขาข้างนอกกันเถอะ" เอ็ดมันด์พูดพลางลุกจากโต๊ะแล้วเก็บเอกสารที่ทำค้างไว้

ทั้งสามคนเดินออกจากประตูวังพร้อมกับที่รถอีกคันขับเข้ามาจอดพอดี

“ว่าไงแก๊งค์” คริสทักพร้อมรอยยิ้ม ขณะที่เขากับโธมัสช่วยกันหยิบกระเป๋าของตัวเองและของคู่แท้ออกมาจากรถจี๊ปของคริส

“มาแค่สุดสัปดาห์เดียว ทำไมพวกนายขนของกันมาเยอะขนาดนี้” เอ็ดมันด์ถามพลางมองรถจี๊ปอย่างไม่แน่ใจ

“เฮ้ คริสกับฉันเอามาแค่เป้คนละใบนะ" โธมัสเถียงพลางทำหน้าเหนื่อยหน่ายแล้วยกมือขึ้น "แต่เฮเซลกับแท็บน่ะสิ ขนของมาอย่างกับโลกจะแตกแหนะ”

“แล้วนายก็ลืมของตลอดนั่นแหละ!” ทาบิธาพูดแก้ต่างให้ตัวเอง

“ให้คู่รักไปจัดการเรื่องที่พักให้เรียบร้อยก่อนดีกว่า ก่อนที่ทริปสุดสัปดาห์นี้จะกลายเป็นช่วงให้คำปรึกษาปัญหาคู่รัก ซึ่งฉันว่าไม่มีใครอยากให้เป็นแบบนั้นหรอกนะ” อเล็กเซียพูดอย่างไม่สบายใจนัก แล้วหันหลังเดินเข้าวังไป

เพราะอเล็กเซียกับลูก้ามาถึงก่อนคนอื่นๆ พวกเขาจึงไปรอที่ห้องนั่งเล่นกับเอ็ดมันด์

"เป็นไงบ้าง" อเล็กเซียถามพลางมองเอ็ดมันด์

เขาถอนหายใจ เดินไปอีกฝั่งของห้องเพื่อรินเครื่องดื่มให้ตัวเองก่อนจะพูด "ก็เคยดีกว่านี้น่ะ แม่ไปเยี่ยมน้า ส่วนคาสเปียนก็ออกไปทำหน้าที่พระราชา ผมเลยต้องอยู่ดูแลวังคนเดียว" คู่แฝดมองเขาอย่างเห็นใจ "เอาน่า พวกเรามานี่ก็เพื่อช่วยนายผ่อนคลายไง" ลูก้าพูด "ขอบใจนะ" เอ็ดมันด์ตอบ "กำลังต้องการพอดีเลย"

หลังจากเก็บข้าวของเสร็จ คู่รักที่มาด้วยกันก็เดินเข้ามาในห้อง “พวกนายว่าที่นี่มันดูเงียบกว่าปกติไหม” โธมัสถามขณะเดินเข้ามาในห้องนั่งเล่นพร้อมคู่แท้และคนอื่นๆ ที่ตามมา “ก็เพราะพี่ชายผมไม่อยู่น่ะสิ พวกนอกคอกแถวชายแดนมีมากขึ้น ทหารราชองครักษ์ส่วนใหญ่เลยตามเสด็จไปลาดตระเวนเพื่อประเมินสถานการณ์” เอ็ดมันด์กล่าว

“อ้อ” โธมัสพยักหน้าเหมือนเข้าใจเรื่องราว แล้วเดินไปที่บาร์เพื่อรินเครื่องดื่มให้ตัวเอง

"อาทิตย์ที่แล้วก็มีพวกนอกคอกมาป่วนที่เขตเราเหมือนกัน" ลูก้าพูด "พ่อไม่ค่อยกังวลเท่าไหร่ แต่ก็ยังป้องกันไว้ก่อน"

"ดีแล้ว" เอ็ดมันด์กล่าว "เราคอยจับตาดูกิจกรรมของพวกมันอยู่ พวกมันยังไม่ได้ทำอะไรน่าตกใจ แต่เราก็ต้องเตรียมพร้อมไว้เสมอ" พวกผู้ชายพยักหน้าเห็นด้วย

“หาอะไรทำกันเถอะ!” เฮเซลร้องขึ้น “ฉันอุดอู้อยู่แต่ในรถมานาน อยากปลดปล่อยพลังงานบ้าง!” เธอบอก

“นั่นมันหน้าที่ของคริสไม่ใช่เหรอ” ลูก้าพูดพลางส่งสายตาอย่างรู้กัน ทำให้ทั้งกลุ่มหัวเราะออกมา “คิดเรื่องอะไรอยู่เนี่ย ทะลึ่ง!” เฮเซลว่าพลางหน้าแดง “เอ่อ เขาก็พูดไม่ผิดนะ” คู่แท้ของเธอพูด ทำให้เธอตีแขนเขาเผียะ

“โอเค! แผนเป็นอย่างนี้” ลูก้าพูดขึ้นมารับหน้าที่นำ “ทุกคนไปเปลี่ยนเสื้อผ้า เราจะออกไปข้างนอกกันคืนนี้!”

“ข้างนอกเหรอ” อเล็กเซียถามพลางมองหน้าลูก้า

“พวกเราเป็นลูกอัลฟ่ากันหมด จะออกไปเที่ยวบ้างไม่ได้รึไง” ทาบิธาพูดจากโซฟา

"คืนนี้เราจะเป็นวัยรุ่นใจแตกกัน จะกิน ดื่ม แล้วก็เต้นให้สุดเหวี่ยงไปเลย มีใครคัดค้านไหม” ลูก้าถามพลางกวาดตามองใบหน้าเพื่อนๆ

“ไม่” พวกเขาตอบพร้อมกัน รอยยิ้มปรากฏขึ้นบนใบหน้า

“เยี่ยม งั้นอีก 20 นาที แก๊งค์เราพร้อมลุย” ลูก้าตบมือพูด

ในยี่สิบนาทีต่อมา พวกเขาก็เปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จและกำลังขับรถเอสคาเลดของเอ็ดมันด์ออกจากทางเข้าวัง พวกผู้หญิงสวมชุดมินิเดรสรัดรูป ส่วนพวกผู้ชายสวมเสื้อเชิ้ตติดกระดุมกับกางเกงสแล็ค พวกเขาแวะที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งเพื่อเริ่มต้นค่ำคืน แต่ละคนผลัดกันเล่าเรื่องราวของตัวเองให้คนอื่นฟังว่าทำอะไรกันมาบ้างตั้งแต่เจอกันครั้งล่าสุด

หลังจากทานอาหารเสร็จ พวกเขาก็กลับไปอัดกันในรถเอสคาเลดคันเดิมที่ค่อนข้างแคบ และหาคลับยอดนิยมแห่งหนึ่งเพื่อไปเต้นรำกัน ตอนที่เดินไปถึงประตู การ์ดหน้าประตูแทบไม่ต้องมองกลุ่มพวกเขาก็รีบเชิญเข้าไปในโซนวีไอพี อัลฟ่าคนเดียวก็ดีพอจะสร้างกระแสให้ร้านได้แล้ว แต่นี่มาทั้งกลุ่มแถมมีเจ้าชายอีก? เจ้าของร้านคงจะดีใจจนเนื้อเต้น

เสียงเพลงช่างสะกดใจ เชื้อเชิญให้กลุ่มก้าวสู่ฟลอร์เต้นรำ อเล็กเซียเต้นรำโดยสลับคู่ระหว่างเอ็ดมันด์กับลูก้า เธอพักไปหาอะไรดื่มที่บาร์

“เอาอะไรก็ได้ที่คุณแนะนำ” อเล็กเซียบอกบาร์เทนเดอร์ ซึ่งพยักหน้าแล้วก็ลงมือทำเครื่องดื่มให้เธอ

“ว้าว” เสียงหนึ่งดังขึ้นข้างหลัง เธอหันไปเจอผู้ชายคนหนึ่งยืนอยู่ กำลังมองเธอตั้งแต่หัวจรดเท้า เขาหล่อเหลาแต่มีความหยิ่งผยองในตัวที่บอกเธอว่าเขาคงจะเป็นนักรบ “คุณดูเหมือนนางฟ้าตกสวรรค์เลย” เขาพูดพร้อมส่งยิ้มที่คงตั้งใจจะทำให้เธอใจละลายแต่กลับทำให้เธอขยะแขยงแทน “ลูซิเฟอร์ก็เคยเป็นเหมือนกันนั่นแหละ” เธอพูดพร้อมยิ้มร้ายกาจ ก่อนจะคว้าแก้วเครื่องดื่มแล้วกลับไปหาเพื่อนๆ ทิ้งให้ชายคนนั้นยืนตะลึง

"เธอพูดอะไรกับหมอนั่นน่ะ? ดูหวาดกลัวสุดๆ เลย" เอ็ดมันด์ถามเธอเมื่อเธอกลับมาที่กลุ่ม อเล็กเซียยิ้มตอบ "อ๋อ เปล่าหรอก หวังว่าคงกำลังทบทวนชีวิตตัวเอง หรืออย่างน้อยก็ทบทวนมุกจีบสาวของเขาอยู่ล่ะมั้ง"

"ผู้หญิงร้ายกาจ" เขาพึมพำพลางส่ายหน้า

เธอเริ่มเต้นรำอีกครั้ง แต่การเป็นผู้หญิงที่ยังไม่มีพันธะก็เหมือนป้ายต้อนรับพวกงี่เง่า มีผู้ชายคนหนึ่งเข้ามาข้างหลังเธอบนฟลอร์เต้นรำแล้ววางมือบนเอวเธอ "เอามือออกไป ก่อนที่ฉันจะเอามันออกให้แก" เธอคำรามเสียงต่ำ เขาหัวเราะ และก่อนที่เขาจะหัวเราะเสร็จ เธอก็คว้าแขนเขาแล้วหักข้อมือดังกร๊อบ เขาก้าวถอยหลังทันทีพลางกุมข้อมือไว้ "อีชั่ว!" เขาตะโกนด้วยแววตาโกรธเกรี้ยวซึ่งแปรเปลี่ยนเป็นความหวาดกลัวอย่างรวดเร็วเมื่อลูก้า เอ็ดมันด์ คริส และโทมัส มายืนอยู่ข้างหลังเธอ

"เมื่อกี้แกพูดว่าอะไรนะ" ลูก้าพูดเย้ยหยัน พลางจ้องเขม็ง

"แม่ไม่ได้สอนหรือไงว่าห้ามแตะต้องผู้หญิงโดยไม่ได้รับอนุญาต" เอ็ดมันด์ถามหยอกล้อกึ่งข่มขู่

"ผ-ผม ข-ขอโทษ" เขาพูดตะกุกตะกัก "ป-โปรด ยกโทษให้ผมด้วย?" เขาพูดพลางมองอเล็กเซียด้วยตาที่เบิกกว้างเท่าไข่ห่าน

เธอรอ จ้องเขม็งไปที่เขาในแบบที่ทำให้เขาสั่นเทา หลังจากผ่านไปหนึ่งนาที เธอก็พูดว่า "ไปซะ แล้วอย่าให้ฉันเห็นหน้าแกอีก" ทันทีที่คำพูดหลุดออกจากปาก เเขาก็วิ่งหนีไปทางออกทันที

"เอาล่ะ ปาร์ตี้เพิ่งจะเริ่มของจริงก็ตอนนี้แหละ" คริสพูดพลางหัวเราะ

พวกเขากลับไปเต้นรำกันต่อทันที ลืมเรื่องที่เกิดขึ้นไปเสียสนิท เอ็ดมันด์จับมืออเล็กเซียเมื่อดีเจเปลี่ยนเป็นเพลงซัลซ่า เธอโยกสะโพกตามจังหวะที่เขาขยับเท้า เคลิบเคลิ้มไปกับเสียงเพลง

หลังจากเต้นไปสองสามเพลง เธอก็หยุดพักเพื่อดื่มอีกแก้ว คราวนี้ทาบาธากับเฮเซลไปเป็นเพื่อนเธอ

"เล่าให้พวกเราฟังหน่อยสิ" แท็บเริ่ม "เธอผิดหวังไหมที่เมทของเธอไม่ใช่เอ็ดมันด์?" เธอพูดด้วยเสียงกระซิบกระซาบเพื่อให้แน่ใจว่าพวกผู้ชายไม่ได้ยิน

"ก็ทั้งใช่และไม่ใช่" เธอตอบอย่างลังเล "คือ... ฉันก็อยากจะรู้จักและเป็นเพื่อนกับเมทของฉัน แต่ความสัมพันธ์ของเรามันเป็นแบบเพื่อนมาตลอด ไม่ใช่แบบคนรัก" เธอพูดพลางมองเอ็ดมันด์ที่อยู่บนฟลอร์เต้นรำกับผู้หญิงอีกคน

"ก็สมเหตุสมผลดีนะ" เฮเซลพูดเห็นด้วย "แต่ฉันก็สงสัยนะว่าเมทของพวกเธอเป็นใคร... ฉันนึกภาพว่าด้วยฐานะของพวกเธอ พวกเขาต้องแข็งแกร่งมากแน่ๆ พนันได้เลยว่าเรารู้แน่ตอนฝึกอบรมผู้นำ" เธอพูดอย่างมั่นใจ

"ฉันเห็นด้วย แล้วฉันว่าเมทของเธอจะต้องทั้งแข็งแกร่งและหล่อเหลาแน่ๆ" ทาบาธาพูดพลางยิ้มให้อเล็กเซีย

"ฉันขอดื่มให้กับเรื่องนั้น!" อเล็กเซียพูดอย่างร่าเริงขณะที่หญิงสาวทั้งสามชนแก้วกัน

Previous ChapterNext Chapter