




บทที่ 8 ใครคือผู้นำ?
ทันทีที่พวกเขาอยู่ห่างจากคนอื่นพอสมควร เซธก็จับมือแม่ของเขาแล้วมองเธออย่างไม่อยากเชื่อ
“แม่ครับ ทำไมแม่ทำแบบนั้นล่ะครับ แม่ไม่ควรพาเธอเข้ามาในครอบครัวเลย แม่ควรจะแยกเธอไว้ต่างหากแทนที่จะให้เธอกินมื้อค่ำกับพวกเรา”
“ลูกหมายความว่ายังไงกัน ควรจะปฏิบัติกับเธอเหมือนสัตว์เลี้ยงงั้นเหรอ เราคือครอบครัวซัลลิแวนนะ ผู้คนจะคิดยังไงกับเราถ้าเราปฏิบัติต่อสมาชิกใหม่ของครอบครัวอย่างเลวร้าย”
สโลนขัดจังหวะ เธอพยายามหลีกเลี่ยงการโต้เถียง
“แม่คะ กิเดียนมีเหตุผลสำหรับการแต่งงานครั้งนี้นะคะ ทั้งหมดนี้ก็เพื่อเจมม่าไม่ใช่เหรอคะ เราไม่ควรรู้จักผู้หญิงคนนี้ด้วยซ้ำ เราแค่มาดูตัวเธอเท่านั้น และจะบอกให้นะคะว่า นั่นไม่ใช่สิ่งที่กิเดียนต้องการเลย”
“กิเดียนไม่ใช่หัวหน้าครอบครัวนี้นะ เขากำลังจะปกป้องผู้หญิงชั้นต่ำที่จ้องแต่จะเอาเงินเขาเท่านั้น น่าอัปยศสิ้นดี คนอื่นต้องเห็นเขาอยู่กับผู้หญิงธรรมดาๆ สิ”
“แม่คะ พวกเราทุกคนเห็นด้วยกับเรื่องนั้น แต่หนูคิดว่าเราควรเคารพความต้องการของกิเดียน โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าแม่เห็นด้วยกับเรื่องบ้าๆ นี่” สโลนกล่าว
“เซธ สโลน พวกแกไม่ต้องห่วงเรื่องนั้นหรอก เดี๋ยวแม่จัดการเอง แล้วตอนนี้ เราจะปล่อยให้พวกเขารอนานกว่านี้ไม่ได้แล้ว”
เอเลนไม่อยากฟังพวกเขาร่ำร้องเกี่ยวกับสถานการณ์นี้ ตอนแรก เธอก็ปฏิเสธความคิดของสเปนเซอร์และกิเดียน แต่หลังจากได้พบอลิซและครุ่นคิดดูแล้ว เธอก็เปลี่ยนใจและพอใจกับผลลัพธ์ที่เป็นไปได้ที่เธอคิดไว้ในใจ เธอตั้งเป้าที่จะทำให้หญิงสาวเป็นที่หมายปองของผู้ชายให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ และเธอก็มีเหตุผลที่ดีสำหรับเรื่องนั้น
อลิซ
พวกเขายังคงคุยกันต่อไประหว่างที่เราทานอาหารค่ำ ฉันก็แค่กินเงียบๆ ส่วนใหญ่พวกเขาคุยกันเรื่องเด็กน้อย ซึ่งเห็นได้ชัดว่าเป็นสมาชิกที่ล้ำค่าที่สุดของครอบครัว เด็กหญิงตัวน้อยพยายามจะเข้ามาหาฉัน แต่พ่อของเธอก็เบี่ยงเบนความสนใจของเธอไปที่อื่นทันทีที่เขาสังเกตเห็นว่าเธออยากเข้ามาใกล้ฉัน เอวายังคงพยายามเข้ามามีปฏิสัมพันธ์กับฉัน แต่เมื่อเซธไม่สนใจเธอ ลีอาห์ก็เข้ามาจัดการแทน โดยรักษาระยะห่างระหว่างเด็กน้อยกับฉันไว้
แน่นอนว่ามันทำให้ฉันเจ็บปวด เพราะฉันคงจะมีความสุขที่ได้คุยกับเธอ แต่เธอก็เป็นแค่เด็กที่ยังไม่เข้าใจเรื่องของผู้ใหญ่ เธอจะรู้ได้อย่างไรว่าการคุยกับฉันเป็นเรื่องต้องห้ามสำหรับเธอ มันไม่ได้มากพอที่จะทำให้ฉันเจ็บปวด แต่มันทำให้ฉันรู้สึกเหมือนตอนที่มาถึงที่นี่ใหม่ๆ ฉันคิดว่ามีเหตุผลบางอย่างที่ทำให้เธอเข้าใกล้ฉันไม่ได้ การคิดถึงเรื่องนั้นอีกครั้งทำให้ร่างกายของฉันสั่นสะท้านไปทั้งตัว
คุณนายซัลลิแวนพาฉันกลับไปที่ห้องหลังอาหารค่ำ เธอไม่ต้องการให้ฉันเดินไปไหนมาไหนได้อย่างอิสระในบ้าน จริงๆ แล้ว ฉันก็เหนื่อยเกินกว่าจะใส่ใจเรื่องนั้นมากนัก ฉันเข้านอนแต่หัวค่ำเสมอ แต่ชีวิตของพวกเขาแตกต่างออกไป บางทีพวกเขาคงไม่เคยต้องตื่นเช้าเพราะต้องไปทำงานหรืออะไรทำนองนั้น
“อลิซ คืนนี้ยอดเยี่ยมมาก ทำความคุ้นเคยกับโอกาสแบบนี้ไว้นะ พวกเราชอบอยู่ด้วยกัน ตอนนี้ นอนหลับฝันดีนะ พรุ่งนี้เรายังมีอะไรต้องทำอีกสองสามอย่าง พักผ่อนให้เต็มที่ล่ะ”
ฉันพยักหน้า
“ราตรีสวัสดิ์ค่ะ คุณนายซัลลิแวน”
“ราตรีสวัสดิ์ อลิซ”
หลังจากเตรียมตัวเข้านอนเสร็จ ฉันก็ล้มตัวลงนอนบนเตียง มันทำให้ฉันประหลาดใจว่ามันนุ่มสบายแค่ไหน ฉันไม่เคยนอนเตียงที่นุ่มขนาดนี้มาก่อน แม้ว่าฉันจะรู้สึกสบายอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน แต่ฉันก็นอนไม่หลับ เหตุการณ์ในวันนี้ทำให้ฉันนึกถึงครอบครัวของฉัน ครอบครัวซัลลิแวนแตกต่างออกไปมาก
คู่สามีภรรยาซัลลิแวนดีต่อกันมาก พวกเขารักกันและรักลูกๆ มันดูเหมือนครอบครัวที่ฉันใฝ่ฝันมาตลอด มันทำให้ฉันนึกถึงช่วงเวลาที่ยากลำบากที่ชาร์ลส์ก่อขึ้นให้กับพวกเรา ความทุกข์ทรมานและความแร้นแค้นทั้งหมดที่แม่กับฉันต้องทน
เมื่อฉันเห็นว่าเซธปฏิบัติต่อลูกสาวของเขาอย่างไร ฉันก็อิจฉาเด็กผู้หญิงเหล่านั้นที่มีพ่อรออยู่ที่โรงเรียน พ่อของพวกเธอคือแฟนตัวยงที่สุดของพวกเธอ พวกเขาพาไปแข่งขัน ดูแลให้แน่ใจว่าพวกเธอปลอดภัย และพวกเขาก็คอยเชียร์ลูกสาวอยู่เสมอหลังรั้วลานสเก็ตน้ำแข็ง
บางครั้ง ฉันก็จินตนาการถึงชีวิตของฉันหากฉันมีพ่อที่ห่วงใย ถ้าเขาไม่ทิ้งแม่ไปตอนที่รู้ว่าแม่ท้องฉัน ถ้าเขาต้องการฉัน
บางที ฉันก็คิดเล่นๆ ว่าเขาเปลี่ยนใจแล้วตามหาฉันเจอ พยายามทำให้ฉันยกโทษให้ที่ทิ้งเราไป ฉันโกรธเขาและรู้ว่าฉันควรจะเกลียดเขา แต่ฉันก็รู้ด้วยว่าฉันคงให้อภัยเขาได้ถ้าได้เห็นว่าเขาอยากจะชดเชยความผิดพลาดของตัวเอง ฉันมั่นใจว่าเขาจะค่อยๆ เอาชนะใจฉันได้ และฉันคงจะมีความสุขที่ได้มีพ่อที่ใส่ใจฉัน
ฉันต้องห้ามตัวเองไม่ให้คิดถึงเรื่องนั้น มันมีแต่จะทำให้หัวใจฉันเจ็บปวดมากขึ้น ฉันคิดว่านี่คงเป็นครอบครัวที่ฉันไม่มีวันได้เป็นส่วนหนึ่ง และพ่อผู้ให้กำเนิดของฉันก็คงไม่สนใจไยดีการมีอยู่ของฉันเลยแม้แต่น้อย
ในห้องนอนของคู่สามีภรรยาซัลลิแวน
เอเลนนั่งอยู่ที่โต๊ะเครื่องแป้ง ทาไนท์ครีมลงบนใบหน้าและนวดเบาๆ ให้ซึมเข้าสู่ผิวอย่างระมัดระวัง
เมื่อเสร็จแล้ว เธอก็มองตัวเองในกระจก เธอพอใจกับรูปร่างหน้าตาของตัวเองมาก และคิดว่าเงินทั้งหมดที่ใช้ไปกับการทำศัลยกรรมพลาสติกนั้นคุ้มค่าแล้ว
เธออยากจะเซอร์ไพรส์สามี จึงสวมเพียงจีสตริงลูกไม้ตัวเล็กๆ และคลุมทับด้วยเสื้อคลุมบางเบา
เมื่อเธอเดินเข้าไปในห้องนอน สามีของเธอก็อยู่บนเตียงแล้ว เขามองภรรยาด้วยสายตาหิวกระหายและเริ่มยิ้มกริ่ม
เอเลนขึ้นคร่อมสเปนเซอร์บนเตียง จัดท่าทางนั่งบนตักของเขา โดยมีขาอยู่คนละข้างของเอว และสัมผัสได้ถึงความตื่นตัวของเขา
เขาเลื่อนมือขึ้นไปเปิดเสื้อคลุมของภรรยา แล้วใช้ฝ่ามือโอบอุ้มทรวงอกของเธอเคล้นคลึงมัน ใช้หัวแม่มือลูบไล้ยอดถันของเธอ
แม้จะรู้สึกถึงแรงกระตุ้นทางเพศ เขาก็ไม่อยากพลาดโอกาสที่จะถามภรรยาเกี่ยวกับเรื่องในวันนี้
“เอเลน ลูกๆ อยากคุยอะไรกับคุณก่อนอาหารเย็นเหรอ”
เขาถามเธอ แต่ก็ไม่ได้ปล่อยมือจากทรวงอกของเธอเลยแม้แต่วินาทีเดียว เอเลนหัวเราะ
“พวกนั้นตำหนิฉันเรื่องที่ฉันปฏิบัติต่ออลิซน่ะสิ ในความเห็นของพวกเขาน่ะ เราควรจะจับยัยนั่นขังไว้”
“ผมว่าพวกเขาก็พูดถูกนะ ที่รัก แล้วผมก็มั่นใจว่ากิเดียนต้องโกรธคุณแน่ๆ”
“ฉันไม่ว่าอะไรหรอกถ้าสุดท้ายแล้วเขาจะมีความสุข อลิซทั้งสวยและพิเศษ กิเดียนจะทิ้งเจมม่า คอยดูสิ”
“เจมม่าเกี่ยวข้องกับเงินและชื่อเสียงของเรานะ แต่นี่ไม่ใช่การกระทำที่ดีเลยจากคุณ ถ้ากิเดียนชอบยัยนั่น เราก็ทำอะไรมากไม่ได้หรอก”
“สเปนเซอร์ ถ้าเจมม่าหายไปจากชีวิตของกิเดียน ฉันก็ไม่ว่าอะไรหรอกถ้าเขาจะหงุดหงิดใส่ฉันสักพัก ฉันทำนี่เพื่อเขานะ แล้วสุดท้ายเขาก็จะรู้สึกขอบคุณฉันเอง”
“คุณก็รู้ว่ากิเดียนก้าวพลาดไปมาก และริคาร์โดจะไม่ให้อภัยเขา อลิซจะตกอยู่ในอันตราย เธออาจจะตายในไม่ช้า”
“มีคนอยากจะใส่ร้ายเรา ฉันมั่นใจว่ากิเดียนพูดความจริงและไม่ได้เกี่ยวข้องกับอุบัติเหตุนั่น ดังนั้น พวกนั้นไม่ควรแตะต้องเธอ”
“ผมก็ได้แต่หวังว่ากิเดียนจะบอกความจริงกับเรา แต่ถ้าเป็นอย่างนั้น เราก็ต้องหาให้ได้ว่าใครต้องการให้เกิดความขัดแย้งระหว่างสองตระกูล”
“นั่นมันหน้าที่ของคุณ สเปนเซอร์”
เขายิ้มให้ภรรยา ขณะที่ยังคงลูบไล้ทรวงอกของเธอ เล่นกับยอดถันที่แข็งชูชันระหว่างนิ้วมือ
“ครับ ที่รัก แต่ผมก็ยังรับประกันไม่ได้ว่าอลิซจะอยู่กับเราได้ แม้ว่าผมจะรู้ว่าคุณต้องการอย่างนั้นมากแค่ไหนก็ตาม”
“สเปนเซอร์ เธอจะสมบูรณ์แบบสำหรับกิเดียน เธอสวยและพิเศษ ฉันต้องการเธอเข้ามาอยู่ในครอบครัวของฉัน”
“โอเค ที่รัก ผมจะพยายาม ผมสัญญา” สเปนเซอร์หัวเราะให้กับความดื้อรั้นของภรรยา
เอเลนยิ้มกริ่มแล้วถอดเสื้อคลุมออก เธอค่อยๆ โน้มตัวไปข้างหน้าเพื่อให้สามีได้ใช้ริมฝีปากและลิ้นปรนเปรอปทุมถันของเธอ
พวกเขาอยู่ด้วยกันมา 37 ปี แต่ก็ยังคงอยู่ด้วยกันอย่างเร่าร้อนได้
สเปนเซอร์ให้เกียรติและนับถือภรรยาที่ยอมทนเจ็บปวดจากการทำศัลยกรรมพลาสติกและการเสริมความงามต่างๆ เพื่อรักษาความเซ็กซี่ไว้ให้เขา แม้ว่าเขาจะไม่เคยร้องขอเลยก็ตาม เอเลนเพียงแค่รักสามีของเธอและชีวิตที่เขามอบให้