Read with BonusRead with Bonus

บทที่ 3 กรงทำจากทอง

“ยินดีที่ได้พบค่ะ คุณนายซัลลิแวน” ฉันพูด พยายามวางตัวเฉยเมย

“เข้ามานั่งก่อนสิ อาหารกลางวันใกล้เสร็จแล้ว ระหว่างนี้เราคุยกันนิดหน่อยได้”

ฉันพยักหน้า เธอนำฉันไปยังห้องนั่งเล่นที่กว้างขวางและสวยงาม แล้วผายมือไปยังโซฟาที่เธอต้องการให้ฉันนั่ง

เธอนั่งลงตรงข้ามฉัน และไม่นาน เด็กสาวในชุดเครื่องแบบก็เข้ามาเสิร์ฟน้ำชา

“สิ่งแรกที่เราจะทำหลังอาหารกลางวันคือพาเธอไปตรวจร่างกาย ฉันเสียใจนะที่เธอต้องผ่านขั้นตอนนี้ แต่มันเป็นกฎของครอบครัวเรา นอกจากนั้น ฉันคิดว่าเธอคงช่วยจัดแจงเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ที่เหลือก่อนงานแต่งได้ เธอจะได้จัดงานแต่งงานที่หรูหราอลังการ ฉันบอกได้เลย เธอจะต้องทึ่งแน่”

ฉันมองหน้าเธอและพยายามอย่างที่สุดที่จะซ่อนความรู้สึก ฉันจะพูดอะไรได้ล่ะ ฉันวาดฝันมาตลอดว่าฉันกับคู่หมั้นจะได้เลือกทุกอย่างในงานแต่งงานด้วยกัน ฉันคิดว่าเราจะได้จัดงานทั้งหมด ฉันคิดว่าจะได้แต่งงานกับคนที่ฉันรัก แต่เปล่าเลย ฉันกำลังจะต้องแต่งงานกับคนแปลกหน้า ฉันจะมีความสุขกับเรื่องแบบนี้ได้อย่างไร ฉันกล้ำกลืนความรู้สึก

“ขอบคุณค่ะ คุณนายซัลลิแวน คุณใจดีมาก”

“ฉันรู้จ้ะที่รัก เธอกำลังสับสนนิดหน่อยและอาจจะรู้สึกอึดอัด แต่ฉันว่าเธอจะไม่เป็นไรนะ เธอเป็นสาวน้อยที่สวยมาก ฉันมั่นใจว่ากิเดียนจะดูแลเธอเหมือนสมบัติล้ำค่าที่สุดของเขา”

ฉันพยักหน้าอีกครั้ง งั้นเขาก็ชื่อกิเดียน

“งานแต่งงานของเธอจะมีขึ้นวันเสาร์ เท่ากับเรามีเวลาสี่วัน ฉันจะพาเธอไปลองชุดแต่งงานด้วย มันสวยงามจนต้องตะลึงเลยล่ะ ฉันบอกได้เลย และตอนนี้พอฉันได้เห็นตัวจริงของเธอแล้ว ฉันมั่นใจว่าเธอจะได้ขึ้นพาดหัวข่าวหลังงานแต่งแน่”

“ขอบคุณค่ะ”

ฉันพูด แต่ในใจกำลังกรีดร้อง เธอพูดถึงสถานการณ์นี้เหมือนเป็นเรื่องปกติ ราวกับว่าเราอยู่ในประเทศที่พ่อแม่ยังคงตัดสินใจว่าใครเหมาะสมที่จะแต่งงานกับลูกๆ ของพวกเขา ฉันมั่นใจว่าเธออยากจะอวดงานแต่งงานนี้ บางทีเธออาจจะมีเพื่อนรวยๆ ที่มองเรื่องพวกนี้เป็นการแข่งขันก็ได้

ในตอนนั้นเอง เด็กสาวคนเดิมก็เดินเข้ามา และฉันก็สงสัยว่าทำไมเธอแค่ผายมือเพื่อบอกว่าอาหารกลางวันพร้อมแล้ว คุณนายซัลลิแวนมองนาฬิกาข้อมือแล้วยิ้มให้ฉัน

“เราต้องรอสักครู่นะจ๊ะที่รัก สเปนเซอร์น่าจะกลับมาเร็วๆ นี้”

เธอไม่ได้บอกว่าเขาเป็นใคร แต่ฉันเดาว่าเขาคงจะเป็นผู้ซื้อของฉัน พ่อสามีในอนาคตของฉัน

เวลาผ่านไปประมาณสองนาที ชายคนหนึ่งก็ก้าวเข้ามาในห้องนั่งเล่น

ฉันลุกขึ้นยืนอย่างประหม่า เขามีรูปร่างกำยำ ดูดี ผมสีดำ และตาสีน้ำตาล มีเพียงใบหน้าเท่านั้นที่บ่งบอกว่าเขาอายุราวๆ ห้าสิบ เขายิ้มให้ฉัน วางฝ่ามือลงบนไหล่ฉัน แล้วจูบแก้มฉันสองข้าง นั่นทำให้ฉันประหลาดใจ

“ยินดีต้อนรับ อลิซ ให้ลุงดูเธอหน่อยสิ”

เขาสำรวจฉันทุกมุมอย่างแท้จริง และจบลงด้วยการจ้องมองดวงตาของฉัน

“รูปร่างดี สัดส่วนบอบบาง ใบหน้าสวย และดวงตาสีเทาสวยสะกดใจ บอกได้เลยว่าลูกชายฉันโชคดี ตัวจริงสวยกว่าในรูปอีกนะเนี่ย”

“ขอบคุณค่ะ” ฉันตอบ

“พร้อมทานอาหารกลางวันหรือยังคะ”

คุณนายซัลลิแวนถามเขา และเขาก็พยักหน้าพร้อมรอยยิ้ม พวกเขานำฉันไปยังห้องอาหาร

มื้อกลางวันของเราไม่ได้เงียบเลย พวกเขาคุยกันเองและคุยกับฉันเยอะมาก แต่ไม่มีใครถามอะไรฉันเลย

พวกเขาไม่ได้สนใจฉัน ฉันรู้สึกเหมือนเป็นสัตว์เลี้ยงหรืออะไรสักอย่าง พวกเขาบอกว่ามันน่ารักและดีแค่ไหน แต่ไม่ได้ถามว่ามันมีความสุขหรือสบายดีไหม ตราบใดที่มันเชื่อฟัง เงียบ และไม่ทำอันตราย พวกเขาก็แค่มีความสุขที่ได้มีมันอยู่ในบ้าน

หลังจากเราทานอาหารกลางวันเสร็จ คุณนายซัลลิแวนก็ยิ้มให้ฉัน

“ลิลลี่จะพาเธอไปที่ห้องนะจ๊ะที่รัก กระเป๋าเดินทางของเธออยู่ในนั้นแล้ว เปลี่ยนเป็นชุดเดรสสบายๆ นะ เธอหาชุดในตู้เสื้อผ้าได้เลย อีกครึ่งชั่วโมงฉันจะมารับไปหาหมอ เธอจะอยู่ที่นี่กับเราจนถึงวันแต่งงาน”

“ขอบคุณค่ะ คุณนายซัลลิแวน”

ฉันพยักหน้า และสาวใช้ก็นำฉันขึ้นบันไดไป มันเป็นทางเดินที่ยาว เธอเปิดประตูและนำฉันเข้าไปพร้อมรอยยิ้ม

ฉันแทบไม่เชื่อสายตาตัวเอง มันดูเหมือนอพาร์ตเมนต์มากกว่าห้องพัก ห้องนั่งเล่นกว้างขวางและหรูหรา ตกแต่งด้วยสีขาวทั้งหมด มีระเบียงที่ดูเหมือนสวน มีสระว่ายน้ำขนาดใหญ่มาก

ฉันเข้าไปในห้องน้ำซึ่งสวยงามและกว้างขวาง ฉันถอนหายใจ มันเหมือนกรงทอง

เมื่อฉันเปิดตู้เสื้อผ้า ฉันเห็นชุดเดรสหลากหลายแบบ แม้ว่าปกติฉันจะไม่ค่อยใส่กระโปรงออกไปข้างนอก แต่ก็ต้องยอมรับว่าชุดพวกนี้สวย ฉันเลือกชุดสีดำ มันคงสะท้อนอารมณ์ของฉันได้ดี ฉันคิด

เมื่อฉันเห็นตัวเองในกระจก ฉันรู้สึกอยากถ่ายรูปส่งไปให้ลูคัส แต่ฉันก็นึกขึ้นได้ทันที ห้ามติดต่อเขา ไม่ใช่แค่เขา แต่รวมถึงพ่อแม่ของฉันด้วย นั่นคือกฎ

ฉันรู้สึกน้ำตาคลออีกครั้งเมื่อได้ยินเสียงเคาะประตู คุณนายซัลลิแวนก้าวเข้ามา ตรวจดูชุดของฉัน แล้วพยักหน้าอย่างพอใจ

“ลูกสะใภ้ของฉันไม่ใช่แค่สวยนะ แต่ยังมีรสนิยมด้านแฟชั่นอีกด้วย ฉันชอบแบบนี้”

แล้วเธอก็ส่งสัญญาณให้ฉันไปกับเธอ ฉันกล้ำกลืนความรู้สึกก่อนจะเดินตามเธอไป

เธอนำฉันลงไปยังรถอีกคัน รถจากัวร์สีดำคันใหม่ เรานั่งเข้าไปในรถ และเธอก็ขับพาฉันไปที่ไหนสักแห่ง

ทุกอย่างดูใหม่สำหรับฉัน เพราะฉันไม่เคยมาลอสแอนเจลิสมาก่อน

เธอจอดรถที่คลินิกเอกชนแห่งหนึ่ง ฉันเดาว่าคงหรูหราเช่นกัน และนำฉันเข้าไปข้างใน เมื่อพนักงานต้อนรับเห็นเธอ เธอก็ทักทายอย่างสุภาพแต่ไม่สนใจฉันเลย

เธอบอกว่าเราต้องรอ ซึ่งทำให้คุณนายซัลลิแวนไม่พอใจ เธอก้มเข้าไปใกล้ๆ และกระซิบอะไรบางอย่างที่หูของพนักงานต้อนรับ พนักงานต้อนรับมีสีหน้าหวาดกลัวอยู่ครู่หนึ่ง แล้วก็ยิ้มขณะโทรศัพท์ หลังจากวางสาย เธอก็บอกว่าเราเข้าไปได้ทันที

คุณนายซัลลิแวนจับมือฉันด้วยรอยยิ้มพึงพอใจและนำฉันเข้าไป

หมอทักทายเธอเหมือนเพื่อน ราวกับว่าพวกเขารู้จักกัน

เธอนำฉันไปยังมุมหนึ่งซึ่งกั้นไว้เหมือนห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า เธอบอกว่าเพราะฉันใส่กระโปรงอยู่ ฉันแค่ต้องถอดกางเกงชั้นในออก ฉันทำตามที่เธอบอก แล้วเธอก็นำฉันออกมา

พวกเขาวางฉันลงบนเตียงตรวจ การคิดถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้นทำให้ฉันกลัว ฉันไม่รู้ว่ามันรู้สึกอย่างไร ฉันไม่เคยอยู่กับใคร ไม่เคยมีใครแตะต้องฉันตรงนั้น ฉันหลับตาและกัดฟันแน่นเมื่อหมอสวมถุงมือยางแล้วเดินมาหาฉัน นั่งลงระหว่างขาที่เปิดอ้าของฉัน

Previous ChapterNext Chapter